จนท.เร่งเก็บกวาดคราบน้ำมัน ถูกคลื่นซัดขึ้นหาดเขต อช.สิรินาถ จ.ภูเก็ต

5 สิงหาคม 2566 นาวาเอกกฤษณ์ เคลือบมาศ รองผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และ นายอดูลย์ ระลึกมูลเจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ

• สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต
• สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15
• ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน
• ตำรวจท่องเที่ยว
• ทัพเรือภาคที่ 3
• อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
• อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง

จำนวน กว่า 100 นาย ร่วมกันเก็บกวาดคราบน้ำมัน และเศษขยะที่เปื้อนคราบน้ำมันซึ่งถูกคลื่นซัดขึ้นมาตลอดแนวชายหาดในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ทั้งหาดในยาง หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดลายัน

ขณะเดียวกันทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจปริมาณคราบน้ำมันตลอดแนวชายฝั่งตามหน้าหาดต่าง ๆ ได้แก่ หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดในทอน และหาดป่าตอง รวมถึงแนวชายหาดของจังหวัดพังงา รวมความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร

นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานมีคราบน้ำมัน และขยะทะเลที่ติดคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดขึ้นมาติดบนชายหาด ก็ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทำการเก็บกวาดมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม) จนถึงขณะนี้ก็ยังคงมีคราบน้ำมัน และขยะทะเลซึ่งปกคลุมด้วยคราบน้ำมันถูกซัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประสานกับภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ระดมกำลังทำการเก็บกวาดอีกครั้ง

โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 ส่วน ดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันและเศษขยะที่เปื้อนคราบน้ำมันดังกล่าวในบริเวณหาดในยาง หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดลายัน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบพบว่าปริมาณจะลดลงกว่าเมื่อวานนี้ แต่ยังไว้วางใจไม่ได้ ยังคงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและมีการเฝ้าระวัง พร้อมทั้งทำการจัดเก็บต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

นอกจากนี้ได้มีการประสานกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ตรวจสอบระบบภาพย้อนหลัง 7 วัน ในระบบ VTS เพื่อดูข้อมูลว่า มีเรือขนาดใหญ่ลำใด เดินเรือผ่านบริเวณที่มีการคราบน้ำมัน โดยหากพบเรือลำใดมีการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ดำเนินการเก็บรวบรวมหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวแล้วด้วย 

นายภูเบศ จอมพล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามานั้น เบื้องต้นคาดว่าจะมาจากเรือเดินสมุทรบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ นอกจากการเก็บกวาดคราบน้ำมันเพื่อทำความสะอาดชายหาดดังกล่าวแล้ว จะมีการนำตัวอย่างน้ำมัน เพื่อไปตรวจในห้องปฎิบัติการว่า เป็นน้ำมันดีเซล หรือน้ำมันเครื่อง ซึ่งทั้ง 2 ชนิด จะมีเวลาเซ็ตตัว 3-7 วัน คาดว่าจะทราบผลภายใน 3 -7 วัน

ส่วนของดำเนินคดีตามกฎหมายกรณีของเรือที่มีการปล่อยสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุน้ำมันในทะเลจะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยมาตรา 119 ทวิ การทิ้งสิ่งปฏิกูลในน่านน้ำซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะต้องมีการชดเชยในส่วนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานด้วย ขณะนี้ในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต มีการพบคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งตลอดแนวชายฝั่งทะเลตะวันตก ตั้งแต่หาดในหาน หาดกะตะกะรน หาดป่าตอง หาดกมลา หาดบางเทา หาดลายัน หาดในยาง หาดไม้ขาว และหาดทรายแก้ว มากน้อยแตกต่างกันไป แต่เท่าที่ตรวจสอบ จะพบมากบริเวณชายหาดในยาง

ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ ทำการจัดเก็บคราบน้ำมันบริเวณชาย แต่พบว่าในทะเลก็ยังมีคราบน้ำมันลอยอยู่เป็นจำนวนมาก และยังคงพัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง จึงยากที่จะทำการจัดเก็บได้หมด จนกว่าจะหมดฤดูมรสุม หรือปริมาณน้ำที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาหมดไป