svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

เดือดปุด "หลวงพี่น้ำฝน" จี้ พศ. สอบ "พระพยอม" ยุ่งเกี่ยวการเมือง

เดือดปุด "หลวงพี่น้ำฝน" จี้ พศ. สอบ "พระพยอม" ปมยุ่งการเมือง ถือเป็นคำสั่งห้ามมหาเถรสมาคม โดยเฉพาะกล่าวถึง ม.112 ยิ่งไม่เหมาะสม ลั่นส่วนตัวไม่เคยหิวแสง เพราะแสงมีในตัวอยู่แล้วคือความดี

26 กรกฎาคม 2566 ยังเป็น ประเด็นร้อน กรณี พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง และกล่าวถึงมาตรา 112 ซึ่งมีเนื้อหาไม่เหมาะสม จนมีกระแสโซเชียล ให้ความเห็นไปในทิศทางที่ว่า พระภิกษุไม่ควรมีบทบาททางการเมือง ตามคำสั่งของมหาเถรสมาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

นอกจากนี้ เมื่อวาน (25 ก.ค.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พระพยอม ว่า เข้าข่ายยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ 
พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
 

ล่าสุด พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้ความคิดเห็นอีกครั้งว่า จากประสบการณ์ ที่โดนร้องเรียนมาก่อน หลังจากมีประชาชน ร้องเรียนเข้าไปยัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่องนี้ต้องมีการดำเนินการ เป็นลำดับขั้นตอน

คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะต้องมีหนังสือแจ้งไปยัง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี และเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินการเป็นลำดับ และต้องมีความชัดเจน เพราะถือเป็นเรื่องของคำสั่ง ของมหาเถรสมาคม 
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม
 

"เรื่องนี้ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ต้องร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด ที่จะต้องลงไปตรวจสอบว่า เป็นจริงไหม ถ้าไม่เป็นจริง จะสรุปว่าอย่างไร แต่ตรงนี้มีภาพคลิป ระบุเป็นหลักฐานไว้ชัดเจนแล้ว  กฎมหาเถรสมาคม ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า ยิ่งเราไปกล่าวเกี่ยวกับมาตรา 112  ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง  เราเป็นพระ เราจะทำอะไรไม่ได้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง อาตมายืนยัน ที่จะพูดเหมือนเดิม" 


คำสั่งมหาเถรสมาคมห้ามพระยุ่งเกี่ยวการเมือง  
 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า กรณีชาวโซเชียล ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า หิวแสง อาตมาจะไปหาแสงทำไม เพราะสื่อเองที่มองว่า อาตมามีความรู้ทางด้านนี้ จึงได้มาสัมภาษณ์ และอาตมาก็ตอบไปตามประสบการณ์ที่มี ซึ่งกระบวนการต้องดำเนินไปแบบนั้น อาตมาไม่เคยหิวแสง เพราะแสงมีในตัวอยู่แล้ว นั่นคือความดี 

นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้สื่อโซเชียล หรือบุคคลบางคน ได้มีการแสดงความคิดเห็นว่า พระพยอม สมควรจะลาสิกขาไป หรือลาออกจากเจ้าอาวาส กลับไปบวชเณร มองว่า อาจจะเป็นการกล่าวตำหนิ ที่แรงเกินความเป็นจริงไป

อยากให้มองว่า กระบวนการขั้นตอนมีอยู่แล้ว หากหน่วยงาน และคณะสงฆ์มีการดำเนินการ อย่างตรงไปตรงมา และทางผู้ถูกสั่งการลงมาน้อมรับคำสั่ง ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่เรื่องนี้ชัดเจนด้วยหลักฐาน 
หลวงพี่น้ำฝน

ส่วนกรณีที่ พระพยอม เคยทำโซเชียล สอบถามไปยังคณะสงฆ์ เรื่องการทำพิธีลงนะหน้าทอง หรือการเจิมต่าง ๆ ว่า เป็นกิจของสงฆ์หรือไม่ เรื่องนี้มีคำตอบแล้วว่า "ไม่ผิด" เพราะถ้าผิด ต้องมีการสั่งห้ามไปแล้ว ซึ่งถ้ามีการสั่งห้าม อาตมาก็หยุด ไม่ฝ่าฝืน

แต่การที่พระ ออกมาวิจารณ์การเมือง ก้าวล่วงไปยังมาตรา 112 สมควรหรือไม่ อาตมามองว่า ไม่เหมาะสม ที่จะมาแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ เราต้องอยู่ในขอบเขตของเราเท่านั้น ซึ่งที่พูดคือ เอาความถูกต้อง ไม่ใช่เอาความถูกใจ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป 
พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว