17 กรกฎาคม 2566 ที่ จ.ชัยภูมิ ได้เกิดเหตุสยองขวัญ ที่โรงเรียนประจำหมู่บ้านกุดไผ่ ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า เมื่อมีเด็กนักเรียน พบระเบิดในโรงเรีย และเกิดเหตุระเบิดขึ้น จนทำให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ มือหวิดขาด เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 ก.ค.)
ทั้งนี้แม้ช่วงที่เกิดเหตุจะเป็นวันหยุด แต่ก็มีนักเรียน เข้ามาออกกำลังกาย และใช้สนามกีฬาของโรงเรียน ก่อนเกิดเหตุเด็กที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 พากันมาเดินเล่นบนสนามฟุตบอล และพบวัตถุคล้ายระเบิดขนาดเท่าลูกปิงปอง พันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ ด้วยความกลัวว่า จะไม่ปลอดภัย จึงไม่กล้าที่จะจับ ก่อนไปบอกรุ่นพี่ ที่อยู่ ม.2 มาช่วยดู
จากนั้นรุ่นพี่ จึงเก็บขึ้นมา และจะนำส่งให้ผู้ใหญ่บ้าน แต่ขณะเดินมาถึงสนามตะกร้อ ที่รุ่นพี่รายนี้เล่นตะกร้ออยู่กับเพื่อน เมื่อเพื่อนส่งลูกตะกร้อให้ รุ่นพี่รายนี้ก็ตั้งท่ารับลูกตะกร้อ แต่เสียหลักล้มกระแทกพื้น ระเบิดที่อยู่ในมือจึงเกิดระเบิดขึ้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มือด้านซ้ายหวิดขาด ก่อนที่เด็ก ๆ จะพากันไปแจ้งผู้ปกครองและครู ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ โรงเรียนดังกล่าว พบตำรวจสายตรวจ อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ โดยทางโรงเรียนได้นำเชือกมาขึง พร้อมป้ายห้ามเข้าบริเวณลานสนามตะกร้อ และสนามฟุตบอลภาย ขณะที่คณะครู ก็อยู่ระหว่างสอบถามเด็กนักเรียน ที่อยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในสนามของโรงเรียน ยังพบมีเศษระเบิดที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น จากประทัดและพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ ในลักษณะฉีกขาด และแตกออกกระจายอยู่บริเวณสนามตะกร้อ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายบันจง ขำชัยภูมิ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ข้อมูลว่า หลังจากเกิดเหตุในช่วงวันหยุดวันอาทิตย์ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนจึงได้เชิญตัวนักเรียน ที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาสอบถาม จึงทราบว่า มีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 จำนวน 2 คน เล่นอยู่ในสนามฟุตบอล และพบกับวัตถุคล้ายระเบิด บริเวณใกล้รั้วโรงเรียน จึงบอกให้รุ่นพี่ ม.2 ไปดู จากนั้นรุ่นพี่จึงเก็บมาแต่พลาด ขณะเล่นตะกร้ออยู่กับเพื่อนล้มลง จึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
วันนี้จึงทำการกั้นพื้นที่ และประสานตำรวจ เพื่อขอกำลังเข้าตรวจสอบในบริเวณโรงเรียนโดยละเอียดว่า ยังคงมีระเบิดชนิดดังกล่าว หลงเหลืออยู่อีกด้วยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของเด็กในโรงเรียน
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามลงพื้นที่หาข้อมูลว่า “ระเบิด” ชนิดนี้มาอยู่ในพื้นที่โรงเรียนได้อย่างไร จึงได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนทราบว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ 3 วัน ในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน จะมีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่น ขี่รถ จยย. 3 - 4 คัน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง
คืนวันก่อนเกิดเหตุทางผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน รวมถึง อปพร. จึงจัดกำลังเฝ้าระวัง จนกระทั่งหลังเที่ยงคืน ก็พบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน เข้ามาในหมู่บ้านจึงทำการตรวจสอบ แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ได้หลบหนีไปได้
จากการสอบถาม ทำให้ทีมข่าวได้พบข้อมูลว่า ปมการขัดแย้งของเด็กวัยรุ่น น่าจะเกิดจากการที่เด็กวัยรุ่นบ้านนี้ ไปร่วมงานบวชในอีกหมู่บ้านหนึ่ง เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และอาจเกิดการเขม่นกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน จึงได้ตามมาก่อกวน หวังจะเอาคืนเด็กในหมู่บ้านดังกล่าว
และยังพบว่า มีการท้าทายกันผ่านทางโซเชียล มีการเปิดเพจของกลุ่มวัยรุ่น โดยใช้ชื่อว่า "ไล่ล่า พวกกุดไผ่ (ทักมา)" แต่หลังจากนั้นไม่นานก็พบว่า เพจดังกล่าวได้ลบไปแล้ว แต่ก็ยังมีหลักฐาน การสนทนาผ่านการแชท โดยรูปโปรไฟล์และข้อความที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมด ทางตำรวจและสถานศึกษา จะได้หาแนวทางแก้ไขและป้องกันร่วมกันต่อไป
ตำรวจยืนยันว่า หากพบเยาวชน มีการก่อเหตุ หรือกระทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยการประกอบอาวุธหรือระเบิด ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงซ้ำอีกได้