17 กรกฎาคม 2566 จากกรณีการเสียชีวิตของ แรงงานที่ลักลอบทำงานในเกาหลีใต้ หรือ ผีน้อย ที่เพจเฟซบุ๊ก “สะใภ้เกาหลีใต้มาดามลี” ได้โพสต์แชร์เหตุการณ์ หญิงสาวชาวไทยภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ถูกน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มพัดจนเสียชีวิต หลังพายุถล่มเกาหลีใต้ที่เมืองมุลคย็องชี
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเนชั่น ทราบว่า ญาติของคือ น.ส.พชรมน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี แรงงานหญิงไทยคนดังกล่าว มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองแคทราย ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จึงเดินทางไปยังบ้านเกิดของหญิงสาวที่เสียชีวิต พบว่าบริเวณหน้าบ้านมีบรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่มีรายงานเสียชีวิตจากเหตุน้ำป่าดินถล่มที่ประเทศเกาหลีใต้ กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกาหลีใต้ (ภาพโดย สำนักข่าวรอยเตอร์)
จัดหางานจังหวัด ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า น.ส.พชรมน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ได้เดินทางไปทำงานเป็นคนสวนและโกดังผลิตน้ำผลไม้ เพื่อทำไวน์ให้กับนายทุนคนหนึ่งที่เมืองมุคย็องชี กับ นายสุพิชา (สงวนนามสกุล) สามี อายุ 33 ปี โดยเข้าเมืองโดยวีซ่านักท่องเที่ยว ลักลอบทำงานมานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยถูกกระแสน้ำป่าพัดจนเสียชีวิตและทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้ร่างกลับคืนมาได้แล้ว
น.ส.พชรมน และ นายสุพิชา สองสามีภรรยา เข้าไปทำงานในเกาหลีใต้
ขณะที่ทางนายสุพิชา สามี ก็ได้ยืนยันตัวตนศพเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานตามระเบียบขั้นตอนของทางประเทศเกาหลีใต้ เพื่อที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้เดินทางไปทำงานตามระบบอย่างถูกต้อง แต่อาศัยวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าไปทำงาน ดังนั้นเมื่อมีการแจ้งความผู้เสียชีวิตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องทำเรื่องไปยังสถานทูต เพื่อให้พิจารณาขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวทราบจาก น.ส.มินตรา (สงวนนามสกุล) น้องสะใภ้ของ น.ส.พชรมน ว่า ทางครอบครัวเตรียมไปติดต่อที่ว่าการอำเภอครบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือประสานงานกับทางกระทรวงต่างประเทศ ให้ช่วยประสานงานกับทางประเทศเกาหลีใต้ในการประกอบพิธีเผาศพและส่งอัฐิกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากการจะนำศพของนางสาวพชรมน กลับมากนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
ทั้งนี้หากส่งศพกลับมาต้องใช้ค่าใช้จ่าย ประมาณ 7 แสนบาท แต่ถ้าเผาศพที่เกาหลีใต้แล้วส่งมาเพียงอัฐินั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท เท่านั้น ซึ่งทำให้ทางครอบครัวของนางสาวพชรมน มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกวีธีการส่งเพียงอัฐิของนางสาวพชรมน เพื่อมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศไทย เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า
ญาติของน.ส.พชรมน
ด้านนายเที่ยง ดอกกระโทก จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในระบบรายชื่อแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศ ในประเทศเกาหลีใต้ ปรากฏว่าไม่ปรากฏชื่อนางสาวพชรมน ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปแบบไม่ถูกกฎหมาย ดังนั้นไม่มีสิทธิการได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากทางราชการ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนเองและคณะก็จะได้เดินทางไปที่บ้านของญาติผู้เสียชีวิต ที่ อ.ครบุรี เพื่อให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทั้งเรื่องการประสานงานกับสถานทูตไทยในเกาหลีใต้ ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการนำเถ้าอัฐิของผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทย และการประสานงานกับสำนักงานแรงงานไทยที่เกาหลีใต้ ว่า ต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติมจากไทย เพื่อให้ได้สิทธิเงินเดือนรวมทั้งเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากนายจ้างตามสิทธิ์ที่ควรจะได้
ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ขอฝากเตือนไปยังแรงงานไทยทั้งหลายว่า อยากให้ไปทำงานต่างแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะถ้าไปทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ทั้งสิทธิประโยชน์ในประเทศไทย และที่ต่างประเทศ หากประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะได้รับการดูแลตามสิทธิ์อย่างเต็มที่
นายเที่ยง ดอกกระโทก จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา