17 กรกฎาคม 2566 แหล่งข่าวสมาชิกระดับสูงของ กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ( KA ) เปิดเผยถึงสถานการณ์ การสู้รบในรัฐคะยาว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้มีการสู้รบระหว่าง กองกำลัง KA และ KNDF ปะทะกับทหารเมียนมาสังกัด กองพัน ทหารราบเบาที่ 80 พล.ร.เบาที่ 66 ที่ถูกส่งกำลังทางอากาศเข้าพื้นที่ดังกล่าว บริเวณพื้นที่ค่ายป่าตึง โดยได้มีการปะทะกันอย่างหนัก ระหว่างที่มีการสู้รบอยู่นั้น ทางกองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินแบบ MIG-29 มาทิ้งระเบิดจำนวน 1 เที่ยวบิน
นอกจากการสู้รบที่ ค่ายป่าตึง ( อดีตค่ายฝึกทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ) ที่บริเวณบ้านกะยะต่าหย่า อ.ดีมอร์โซว์ ซึ่งอยู่ห่างทางด้านทิศใต้ของ จ.ลอยก่อว์ ประมาณ12 กม.ทหารเมียนมาได้ทำการโจมตี กองกำลัง KA , KNDF และ PDF ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวอย่างหนัก ซึ่งทางกองทัพอากาศเมียนมา ได้มีการปฏิบัติการทิ้งระเบิดเช่นกัน ทำให้มีราษฎรชาวคะยาหนีภัยลงมาอาศัยอยู่ในป่า บริเวณพื้นที่ อ.ฟลูโซว์ ที่อยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก และอยู่ภายใต้การดูแลของ ศูนย์รองรับผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs: Internaly Displace Person) อ.ฟลูโซว์ จ.ลอยก่อว์ รัฐคะยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับสถานการณ์บริเวณพื้นที่ตรงข้าม อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ทหารเมียนมาที่ยังคงปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ มีจำนวน 6 กองพัน ประกอบด้วย กองพันทหารราบที่ 134, กองพันทหารราบที่ 135, กองพันทหารราบเบาที่ 54, กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 510, กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 519 และ กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 334
ทั้ง 6 กองพันในขณะนี้ไม่สามารถปฏิบัติการทางทหารต่อกองกำลัง ทหารกะเหรี่ยงคะยา KA ได้แต่อย่างใด และถูกซุ่มโจมตี จนกำลังพลสูญเสียทุกวัน
ส่วนการส่งเสบียงอาวุธและอาหารทำได้ทางอากาศเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางทางบก ได้ถูกกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ควบคุมไว้ทุกเส้นทาง โดยทางการเมียนมาพยายามส่งกองพันทหารราบเข้ามาสนับสนุน ซึ่งมาจากกองพลทหารราบเบา ที่ 55 จ.ลางเคือ รัฐฉาน โดยพยายามเข้ามาทางด้านทิศตะวันออกของดอยสามเมือง ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนกำลังเข้ามาในพื้นที่ของรัฐคะยาได้แต่อย่างใด
ปัจจุบัน ยังคงมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เชื้อสายคะยา ( ผภสม.) เข้ามาอาศัยในประเทศไทยในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 8,991 คน ประกอบด้วย