13 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าการสู้รบของ รัฐบาลทหารเมียนมา กับ กระเหรี่ยงคะยา ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า กองทัพเมียนมาจะทำการโจมตีฐานยามู ฐานที่มั่นของทหารกะเหรี่ยงคะยา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับฐานที่มั่นของทหารไทย
ขณะที่ผู้ลี้ภัย ในศูนย์รองรับผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs: Internaly Displace Person) บ.ดอยนกกู่ อ.ชาดอ จ.ลอยก่อ ที่ถูกทิ้งระเบิดได้พากันหนีเข้าสู่ไทยจำนวน 3,331 คน และคาดว่าจะมีการหลบหนีเข้ามาอีก เนื่องจากหวั่นจะถูกโจมตีด้วยระเบิดจากเครื่องบินอีกรอบ
พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ในฐานะ ผบ.ศปก.ทบ. และคณะ เดินทางมาปฏิบัติภารกิจและตรวจเยี่ยมหน่วยทหาร ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านเสาหิน หมู่ 1 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และ ตรวจเยี่ยม ฐานปฏิบัติการนาป่าแปก ร้อย.ร.713 บ้านรักไทยหมู่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
หลังจากเหตุการการทิ้งระเบิดใส่ศูนย์รองรับผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs: Internaly Displace Person) บ.ดอยนกกู่ อ.ชาดอ จ.ลอยก่อ ที่อยู่ในรัฐคะยา ประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัย หลบหนีเข้าสู่ไทยที่ บ้านในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 3,331 คน
นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายเอกพงษ์ มนุษย์พัฒนา ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน สมาชิก อส ชุด เคลื่อนที่เร็วกองร้อย สมาชิก อส ชุดดูแลศูนย์พื้นที่พักพิง บ้านใหม่ในสอย ม.4 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ศูนย์พื้นที่พักพิงฯ เพื่อดูความเป็นระเบียบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับผู้หลบหนีเข้ามาใหม่
ทั้งนี้ นายสังคม คัดเชียงแสง นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เรียกประชุมกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาหารือ และหาแนวทางช่วยเหลือ โดยมีหน่วยงานดังนี้
พร้อมทั้งได้มอบหมายให้สมาชิก อส. ชุดศูนย์พื้นที่พักพิง และทหาร ควบคุมดูแล หากสถานการณ์การสู้รบสงบก็จะทำการส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป
ด้าน ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ ถึงสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉบับที่ 32 ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เวลา 19.00 นาฬิกา ระบุว่า..
ยังคงปรากฎข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลัง ชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา เป็นการปฏิบัติการทางทหารโดยใช้กำลังทางอากาศโจมตีต่อกองกำลังชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดนพื้นที่ด้านตรงข้ามตำบลปางหมู และตำบลหมอกจำแป อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ปัจจุบันมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 3,331 คน
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของพรรคชาติคะยาก้าวหน้า Karenni National Progressive Party : KNPP เปิดเผยว่า ผู้ลี้ภัยชาวคะยาที่บ้านดอว์นกกุ ศูนย์รองรับผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs: Internaly Displace Person) บ.ดอยนกกู่ อ.ชาดอ จ.ลอยก่อมียอดรวมทั้งสิ้น 5,028 คน ถูกทางการเมียนมาทิ้งระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายมีแหร่ อายุ 37 ปี และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 10 คน ทำให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้าไทยที่บ้านในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 3,331 คน เฉพาะเมื่อวันที่ 12 ก.ค.66
ทางกองทัพอากาศเมียนมา ได้มีการปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตี ทหารกะเหรี่ยงคะยาและหมู่บ้านในเขตพื้นที่ อ.ผาซอง โดยมีการปฏิบัติการทางอากาศจำนวน 6 ครั้ง ซึ่งเครื่องบินเหล่านั้นมาจาก สนามบินเนปีดอว์ , สนามบินมิงกลาโดน , สนามบินตองอู และสนามบินปะเส่ง เมืองเมาะละแหม่ง ยังไม่ทราบผลการโจมตี เนื่องจากสัญญานวิทยุและมือถือขัดข้อง
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวยังระบุต่อไปว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนของรัฐคะยาที่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงน่ากังวล เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า กองทัพอากาศเมียนมาอาจจะมีการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อฐานที่มั่นของทหารกะเหรี่ยงคะยา ซึ่งทางด้านทหารกะเหรี่ยงคะยา ได้มีการสั่งการให้หน่วยทหารทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือจากการโจมตีทางอากาศของทหารเมียนมา ที่คาดว่าจะมีการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของทหารเมียนมาในเร็ว ๆ นี้