ฟิลิปปินส์อพยพคน รับมือ“อูซางิ” พายุลูกที่ 5 ในช่วง 3 สัปดาห์
ฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ก่อนพายุไต้ฝุ่น “อูซางิ” จะพัดขึ้นฝั่งในวันพฤหัสบดี ขณะที่ยูเอ็นประกาศระดมเงินเพื่อช่วยเหลือฟิลิปปินส์ หลังพายุหลายลูกซัดกระหน่ำติด ๆ กัน คร่าชีวิตประชาชนเกือบ 160 ราย
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของฟิลิปปินส์ รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น “อูซางิ” อาจพัดขึ้นฝั่งในจังหวัดคากายัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอนในวันพฤหัสบดี (14 พฤศจิกายน) และนายกเทศมนตรีของหลายเมืองในจังหวัดคากายันได้รับคำสั่งให้อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยอาจใช้กำลังหากจำเป็น เนื่องจากพายุที่มีความเร็วลม 120 กม./ชม. กำลังจะพัดขึ้นฝั่ง และอาจทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและดินถล่ม ขณะที่หลายพื้นที่ยังคงเปียกชุ่มจากฝนตกเมื่อเร็ว ๆ นี้
เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศยังมีคำเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอพยพลึกเข้าไปในแผ่นดิน เนื่องจากอาจมีสตอร์มเซิร์จและคลื่นซัดชายฝั่งสูงถึง 3 เมตร และเรืออาจเผชิญคลื่นสูงถึง 8-10 เมตร กลางทะเล
สำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ เผยว่า ประชาชนกว่า 700,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และประกาศระดมเงิน 32.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือฟิลิปปินส์
พายุอูซางิเป็นพายุลูกที่ 5 ที่จะพัดขึ้นฝั่งในฟิลิปปินส์ในช่วงเวลาเพียง 3 สัปดาห์ หลังจากพายุไต้ฝุ่น “โทราจี” เพิ่งพัดขึ้นฝั่งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน และก่อนหน้านั้นฟิลิปปินส์ประสบกับพายุไต้ฝุ่น “หยินซิ่ง” ขึ้นฝั่งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ส่วนพายุไต้ฝุ่น “กองเร็ย” และพายุโซนร้อน “จ่ามี” สร้างความเสียหายอย่างหนักช่วงปลายเดือนตุลาคม
ขณะที่พายุโซนร้อน “หม่านหยี่” คาดว่า จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น ก่อนขึ้นฝั่งในภาคกลางของฟิลิปปินส์อย่างเร็วช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน
พายุจ่ามี, พายุกองเร็ย และพายุหยินซิ่ง คร่าชีวิตประชาชนในฟิลิปปินส์รวม 159 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากพายุจ่ามี ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ขณะที่รัฐบาลยังไม่รายงานตัวเลชผู้เคราะห์ร้ายจากพายุอูซางิ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมสะพาน โครงข่ายไฟฟ้า และเก็บกวาดเศษซากต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นที่กีดขวางถนน และดินโคลนที่ปิดกั้นถนน
