8 กรกฎาคม 2566 จากกรณี ครูอุ้ม สะอื้นแทน "น้องเตย" ลูกศิษย์วัย 4 ขวบ ที่ต้องดูแลคุณย่าตาบอด รับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน โดยคุณครูอุ้ม ได้แชร์เรื่องราวสุดสะเทือนใจครั้งนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok บอกเล่าเรื่องราวที่พบโดยบังเอิญ ขณะไปเยี่ยมบ้านลูกศิษย์ ชั้นอนุบาล 2 วัย 4 ขวบ ดูแลคุณย่าวัย 68 ปี ตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง พร้อมความห่วงความปลอดภัย เนื่องจากสภาพบ้านเป็นบ้านไม้เก่า และน้องเตย ยังเด็กมาก
ต่อมานายอำเภอ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บุรีรัมย์ (พมจ.) องค์การบริหารส่วยจังหวัด (อบจ.) รวมทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ในจ.บุรีรัมย์ ได้รุดเยี่ยมและให้การช่วยเหลือ เด็กหญิง 4 ขวบและคุณยายวัย 68 ปี นำตัวไปตรวจร่างกาย เตรียมปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรม ขณะที่คุณครูอุ้ม ได้ประกาศปิดรับบริจาค หลังมีผู้ใจบุญช่วยเหลือกว่า 6 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการตาบอดของย่าน้องเตย ดีขึ้นหนึ่งข้าง พอมองเห็นเลือนราง แต่สภาพบ้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการซ่อมแซม หรือปรับปรุงตามที่แต่ละหน่วยงานมาเสนอให้ตอนที่เป็นข่าว
จากการสอบถาม คุณครูอุ้ม ทราบว่า หลังจากเวลาผ่านไปได้ไปติดต่อ อบต.ในพื้นที่ทราบว่า เงินที่ พมจ. และ อบจ. สัญญาว่าจะให้ ยังไม่มีลงมา แต่ถ้าได้เงินเมื่อไหร่จะทำการซ่อมแซมทันที คาดว่าซ่อมแซมให้เสร็จภายใน 25 วัน
นอกจากนี้ยังพบปัญหาว่า บ้านที่น้องเตยอาศัยอยู่ กลายเป็นชื่อของหลานสามีของคุณย่าน้องเตยไปแล้ว เนื่องจาก นายเอียน ทุรารัมย์ อายุ 68 ปี สามีของนางเสา ซึ่งเป็นคุณปู่ของน้องเตย ได้โอนบ้านและที่ดินให้กับหลานของนายเอียน ไปแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา
คุณครูอุ้ม กล่าวอีกว่า ตอนนี้พยายามหาซื้อที่ดินให้ น้องเตย ในราคาที่เหมาะสม และให้อยู่ได้สองย่าหลาน แต่เกรงว่าจะทำเกินหน้าที่ จึงร้องขอให้ผู้สื่อข่าวมาเป็นอีกหนึ่งแรงในการสื่อสารออกไป เพื่อการตัดสินใจ หากได้ที่ที่เหมาะสม ราคาพอได้ ก็จะขอคำแนะนำกับผู้ที่เกี่ยวข้องจัดซื้อที่ดิน และเอางบประมาณราชการมาสร้าง
"หากเงินไม่พอ ก็เอาเงินส่วนที่ได้รับบริจาคมาเสริม หลังจากนั้นน้องเตย และคุณย่าน้อง คงจะอยู่อย่างมีความสุข ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป" คุณครูอุ้ม ระบุ