26 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้าคดีร้อน ๆ กรณี กรมศุลกากร จับทุเรียน น้ำหนักกว่า 8 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยระบุ เป็นทุเรียนเถื่อน มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ ไม่ปรากฎเอกสารหลักฐาน แสดงการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จึงยึดของกลางทั้งหมด ส่งดำเนินคดี
ขณะที่เจ้าของล้งทุเรียน ได้ร้องเรียนกับ นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่า ทุเรียนดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง จากเจ้าของสวนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำมาส่งขายไปยังต่างประเทศ เนื่องจากทุเรียนใน จ.จันทบุรี มีไม่เพียงพอ และมีการเข้าแจ้งความเอาผิดเรื่องนี้ ก่อนที่ต่างฝ่ายนะนำข้อมูลออกมาโต้กัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งกรณีนี้ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันว่า กรมศุลกากรได้ตรวจสอบเส้นทางของรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว พบว่าในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 21 - 23 มิ.ย. 66 รถยนต์คันดังกล่าว มิได้มีการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ แต่ได้มีการใช้รถอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.สระแก้ว เท่านั้น
ล่าสุด นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งรับการร้องเรียน จากผู้ประกอบการล้งรับซื้อทุเรียนใน จ.จันทบุรี ที่รถขนทุเรียน 8 ตัน ที่อ้างว่าซื้อมาจาก จ.ศรีษะเกษ ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศจับกุมนั้น ได้ออกมาไฮปาร์ค บริเวณด้านหน้าสำนักงานศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เพื่อเรียกร้องให้ทางศุลกากร ออกมาชี้แจง และให้ความกระจ่าง กรณีมีการจับกุมผู้ประกอบการดังกล่าว รวมทั้งมีการนำทุเรียน ไปจำหน่ายจ่ายแจกและขายออกไป โดยที่เจ้าของทุเรียนไม่ได้รับรู้ จึงต้องการให้มีการนำข้อมูลการขายทุเรียน รวมถึงเงินที่ได้จากการขายอยู่ที่ไหน โดยนายอัมรินทร์ ยังระบุด้วยว่า ได้พูดคุย กับล้งและเจ้าของสวน ยืนยันว่า เป็นทุเรียนที่ซื้อมาจากภาคอีสานจริง
ขณะที่ นายนภดล ปิ่นทอง อายุ 36 ปี ตัวแทนล้ง จ.จันทบุรี ซึ่งเดินทางมาดูทุเรียน 8 ตัน ที่ถูกจับกุม ระบุว่า ทุเรียนที่เหลือขณะนี้ น่าจะมีอยู่ประมาณ 4 ตัน ซึ่งทุเรียนทั้งหมด ตนรับซื้อมาจากทาง จ.ศรีษะเกษ โดยรับซื้อมาจากพรรคพวกกัน งวดนี้รับซื้อมา 8,000 โล หลังรับซื้อก็ใส่รถบรรทุก 6 ล้อ มาจำหน่ายในภาคตะวันออก
โดยจะเอาไปแปรรูปและส่งห้องเย็น ส่วนการรับซื้อ จะมีทั้งโบกข้างทาง รับซื้อจากสวน ที่มีคนมาขายทั่วไป รวมทั้งซื้อแบบเหมาสวนด้วย ซึ่งช่วงระหว่างจับกุม ไม่ทราบว่า มีการข่มขู่หรือไม่ หรือมีการนำเอกสารมาให้เซ็นเท่านั้น
นายนภดล บอกอีกว่า การซื้อส่วนใหญ่ จะนำเงินสดไปหากซื้อหรือเหมา โดยเฉพาะหมอนทอง ซึ่งอยากจะรู้ว่า ทำไมเขาไม่ให้ตนประมูลคืน เพราะตนเป็นเจ้าของ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิเสธทุกอย่าง เสร็จแล้วก็เตรียมอะไรต่าง ๆ มาอย่างที่ในสื่อออก ต้องการให้มีการออกมาชี้แจงว่า ทุเรียนหายไปไหน เหตุใดจึงไม่ขายคืนให้เรา
นอกจากนี้ น้องที่ถูกจับกุมบอกว่า เจ้าหน้าที่ข่มขู่ เขาก็เลยเซ็น จะปล่อยรถเขาก็ไม่ปล่อย ซึ่งตนเดินทางมาจากจันทบุรี เพื่อมาดูของที่เหลือ ตอนนี้อยากให้ชี้แจงว่า ทำไมถึงประมูลไม่ได้ และทุเรียนที่ยึดมาเอา ไปที่ไหนบ้าง
อย่างไรก็ตาม ทางด้านด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยนายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้เดินทางไปร่วมแถลงข่าวกรณีดังกล่าวที่ กทม. ซึ่งหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ของด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้นำเอกสารการแถลงข่าว มาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน ที่เดินทางไปดูของกลางที่เหลือ ที่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง
พร้อมกับชี้แจงว่า ทุเรียนที่ถูกจำหน่ายจ่ายแจกออกไป ตามอำนาจหน้าที่ของศุลกากร ขณะนี้จำหน่ายไปแล้วประมาณ 10 หน่วยงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการทั้งหมด ซึ่งมารับหลังจากจับกุมประมาณ 1 - 2 วัน โดยมีสัดส่วนต่าง ๆ ไม่เท่ากัน
เมื่อถามว่า หลังจับกุม มีการเตรียมลังมาขนทุเรียนจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ศุลกากร บอกว่า ไม่แน่ใจ ส่วนทุเรียนที่จับกุมมาทั้งหมด เป็นทุเรียนเถื่อนจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ ตอบว่า ทางเราได้มีการพิสูจน์มาระดับหนึ่ง หลังจากนี้รายละเอียด จะเป็นเรื่องทางทางคดี ส่วนจะลักลอบมาหรือไม่ เป็นเรื่องทางคดี ส่วนทุเรียนที่เหลือในปัจจุบันนี้ อยู่ระหว่างกำลังพิจารณาของกรมว่า จะดำเนินการอย่างไร
มีรายงานว่า ภายหลัง นายอัมรินทร์ ยังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ถึงอธิบดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเมื่อเอกสารตัวเลขตรงกันแต่ศุลกากรเปลี่ยนสำนวนในคดี เปลี่ยนผู้ต้องหาในคดี แบบนี้ทำได้ด้วยหรือ อธิบดีช่วยตอบผมหน่อย แล้วคุณก็หยุดเลิกโทรไปตามคนขับรถซะที เพราะตอนนี้คนขับรถอยู่กับผม รออธิบายให้ฟัง
รถ 6 ล้อไม่มี GPS อธิบดีคุณกำลังนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอยู่นะครับ อย่างที่ลูกน้องคุณโทรมาเมื่อคืนคนละหมัด คุณฟ้องผมก็สู้ แต่เอาที่แน่ ๆ วันนี้ คุณเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาเนี่ย ผมจะดำเนินคดีกับคนที่ทำสำนวน ดูเอาก็แล้วกันนะครับ เล่นกันง่ายเนาะ หาแ-กกันง่ายจริง ๆ แต่ที่แน่ ๆ -ึงตั้งกรรมการสอบเรื่องบุกโรงงานเขาให้กูก่อนนะ"
พร้อมภาพเอกสารบันทึกการตรวจค้นจับกุม ซึ่งหัวกระดาษปรากฎเลขที่เอกสารเดียวกัน โดยฉบับแรกมีลายมือชื่อ น.ส.อภิชญา ทองหล่อ เซ็นรับเป็นผู้ต้องหา ขณะที่อีกฉบับไม่ปรากฎชื่อผู้ต้องหา