สุดทึ่ง! เกษตรกรพิจิตร ปลูกผักสวนครัว ตัดยอดขาย ปลดหนี้เกือบล้าน

15 มิถุนายน 2566 "ปัญหาหนี้สิน" ถือเป็นอีกปัญหาสำคัญของประเทศไทย ที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะภาครัฐ ที่จะต้องเร่งหามาตรการ มาช่วยเหลือประชาชนในการ "ปลดหนี้" ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลาย หรือซ้ำหนักด้วยการกลายเป็น "หนี้นอกระบบ" ที่ถือเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้มากขึ้น

ขณะที่ประชาชนเอง ก็ต้องให้ความร่วมมือ และสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงหาทางปลดเปลื้องหนี้สินด้วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ อย่างเช่น กรณีของ นางวิญญู เขียวขำ เกษตรกร ม.4 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร ที่มีหนี้สินเกือบ 1 ล้านบาท 

แต่สามารถปลดหนี้ที่มีอยู่ ด้วยใช้พื้นที่ว่างเปล่า ที่มีอยู่ 3 ไร่ ปลูกพืชผักสวนครัว ที่ตัดยอดขาย ทั้งต้นโหระพา , กระเพรา , แมงลัก และผักอีกหลายชนิด เพื่อตัดยอดเก็บจำหน่าย โดยเฉพาะ ผักสวนครัว ที่ปลูกง่าย สามารถเก็บตัดยอดและใบ ส่งจำหน่าย ถึง 1,000 - 1,500 บาท ต่อวัน สามารถปลดหนี้สิน เกือบ 1 ล้านบาท ในระยะเวลาการทำพืชผักสวนครัวเพียง 8 ปี สามารถลดหนี้สิน เหลือ เพียง 1 แสนบาท 

นางวิญญู กล่าวว่า ผักสวนครัว ปลูกง่าย โดยเฉพาะพื้นที่ว่างเปล่า ใกล้แหล่งน้ำ โดยผักสวนครัวที่ปลูก ส่วนใหญ่ จะเป็นทั้ง ต้นโหระพา , กระเพรา , แมงลัก , ยี่หร่า เป็นพืชที่ปลูก และดูแลง่าย โดยการนำเมล็ดลงเพาะ จากนั้นแยกปลูกลงดิน ทำการรดน้ำ และ ใส่ปุ๋ย จึงเจริญเติบโต ใช้เวลา 15 - 20 วัน ต้นจะแตกยอดและใบ จึงเก็บจำหน่าย 
 

โดยการตัดยอด ซึ่งการเก็บ จะเก็บตัดยอดได้ทุกวัน แบบยิ่งตัดยิ่งแตก จากนั้น นำมัดกำ ทั้งแบบขายเป็นกำ และ เป็นกิโลกรัม จะนำไปจำหน่ายเอง ที่ตลาดสดเมืองพิจิตร สร้างรายได้ วันละ 1,000 - 1,500 บาท

 

นางวิญญู กล่าวว่า การปลูกผักสวนครัว มาตลอดระยะเวลา 10 ปี ตอนนั้นมีหนี้สินเกือบ 1 ล้านบาท จึงทำการปลูกผักมาต่อเนื่อง ใช้เวลาเพียง 8 ปี สามารถลดหนี้สินเกือบ 1 ล้านบาท เหลือ เพียง 1 แสนบาทเศษ ซึ่งการปลูกผักสวนครัวแบบตัดยอด ดีกว่าการทำนา ที่รอผลผลิต 3 เดือน แต่ผักสวนครัว สามารถมีรายได้ทุกวัน

อีกทั้ง การปลูกผักสวนครัว ถือว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง เป็นพืชดูแลง่าย และ มีรายได้ทุกวัน จากการตัดจำหน่าย และอยากฝากเกษตรกร ขอให้ มีความขยัน และ อดออม จะสามารถผ่านวิกฤตหนี้สิน จากการทำเกษตรแบบพอเพียงได้