9 มิถุนายน 2566 พ.ต.ท.อภิรัฐ ทองฉิม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตข้างบ่อน้ำหน้าบ้านพัก ใน ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม แพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง เข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพนายเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่สวมเสื้อ ศีรษะชุ่มไปด้วยเลือด ท้ายทอยมีแผลฉกรรจ์ จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย
สอบถาม นางบี (นามสมมติ) แม่ผู้ตาย ได้ความว่า ผู้ตายซึ่งอยู่ในสภาพป่วยหนักเรื้อรังจากอาการวัณโรค ได้ออกมาจากบ้านเข้าใจว่ามาอาบน้ำที่บ่อน้ำ อาจเกิดลื่นล้มศีรษะฟาดกับขอบข่อที่เป็นคอนกรีตเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนตนเองนั้นได้กลับมาจากบ้านญาติอีกหลังกลับมาพบศพจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ โดยไม่ติดใจสาเหตุใดๆเนื่องจากเป็นการล้มเสียชีวิตเองโดยที่ไม่ใครทำร้าย
นางบี บอกอีกว่า อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับผู้ตายเพียง 2 คน ผู้ตายอยู่ในสภาพป่วยหนักไม่ยอมไปหาหมอรักษาอาการ ด้วยเกรงว่าจะต้องนอน รพ.กลัวแม่จะลำบาก จนร่างกายป่วยหนักไปเรื่อยๆเป็นเหตุให้อ่อนแรง จนเกิดเหตุขึ้น ก่อนเกิดเหตุมีเงินทั้งบ้านอยู่เพียง 37 บาท แบ่งมา 30 บาทไปซื้อของกินให้ผู้ตาย เหลือเงินเพียง 7 บาท ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับศพ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ยินและสังเกตบ้านของนางบี และผู้ตาย พบว่าอยู่ในสภาพแร้นแค้นอย่างมาก ไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้ายกมิเตอร์จากที่ไม่มีเงินชำระไปแล้วเกือบ 10 ปี ในครัวทำอาหารกับไม้ฟืนที่หาได้จากบริเวณใกล้บ้านเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร
ส่วนอาหารสดนั้นได้จากเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือมอบให้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งงานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม และพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันควักกระเป๋าสมทบเงินสดได้จำนวนหนึ่งมอบให้นางบี เพื่อไปจัดการศพลูกชายถึงกับร่ำไห้ด้วยความดีใจ พร้อมทั้งบอกว่าลูกสั่งว่าถ้าตายไปนั้นให้เอาไปเผาเลยไม่ต้องทำงานศพใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าอย่างน้อยก็ต้องทำบุญวาระสุดท้ายให้ตามประเพณีสัก 1-2 คืนก็ยังดี ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยประสานงานเพื่อขอหีบศพมาช่วยสงเคราะห์บรรจุศพตามสภาพไว้ก่อน