ปาฏิหาริย์! พบสัญญาณชีพเด็กในครรภ์ลูกจ้างสาว หลังนายจ้างทำร้ายปางตาย

27 พฤษภาคม 2566 จากกรณีทำร้ายร่างกายลูกจ้างสาว ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า นางหอม อายุ 31 ปี หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน ถูกนายชานนท์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 43 ปี นายจ้างร้านขายน้ำเต้าหู้ ซ้อมทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส อาจขั้นแท้งลูกในครรภ์ เนื่องจากเด็กไม่ดิ้นดังเช่นเคย

รวมทั้งถูกข่มขู่คุกคามจากคู่กรณี พยายามกดดันให้รับเงิน 2 แสนบาท เพื่อยุติคดี ซ้ำเหยื่อระบุไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำคดีจากตำรวจ คนร้ายยังลอยนวลอยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 

กระทั่ง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว และผอ.ศูนย์ประชาบดีจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำเรื่องดังกล่าวเข้าแจ้งกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอความเป็นธรรม และผู้บังคับการตำรวจ แม่ฮ่องสอน สั่งเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ลูกจ้างสาวท้อง โดนนายจ้างทำร้ายสาหัส สูญเสียลูก ตร.ไม่รับแจ้งความ
• สั่งเปลี่ยนตัว"พนักงานสอบสวน"แล้ว คดีนายจ้างซ้อม"ลูกจ้างสาว"แท้งลูก

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาในการให้ความช่วยเหลือกรณีนางหอม ลูกจ้างถูกนายจ้างคนไทยทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ และกระทบต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือทั้งในเรื่องของการดูแลรักษาด้านสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน การเยียวยาค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย รวมถึงค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม 

จากวิเคราะห์เบื้องต้นในคดี หากนางหอม ลูกจ้างที่ถูกนายจ้างทำร้าย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานเป็นผู้เสียหาย ในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2559 มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ตามแนวทางพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนที่จะได้รับ คือ

• 1. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลไม่เกิน 40,000  บาท
• 2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่ายกายและจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท
• 3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติไม่เกิน 1 ปี
• 4. ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นไม่เกิน 50,000  บาท 

ทั้งนี้ได้แจ้งให้ญาติผู้เสียหายได้รับทราบในสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่จำเลยในคดีอาญาแล้ว

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือทั้งในเรื่องของคดี เรื่องดูแลสุขภาพ และเรื่องการเยียวยาแก่ผู้เสียหาย  เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายที่เป็นลูกจ้างและถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย  เพื่อให้เขาได้รับสิทธิตามกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะการเยียวยาค่าตอบแทนจากการถูกกระทำให้ได้รับสิทธิตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเงินกองทุนในการฟ้องคดี

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่ได้รับบาดเจ็บเกิดจากความรุนแรง โดยเบื้องต้นได้ทราบจากทางแพทย์ที่ดูแลรักษาว่า เด็กในครรภ์ยังมีชีพจรอยู่ เด็กปลอดภัยเพียงแต่สัญญานชีพอ่อนลงเท่านั้น ไม่ได้รุนแรงตามที่ปรากฏในข่าว ก่อนหน้านี้ แต่ผู้เสียหายยังเกิดความวิตกกังวลและมีอาการเครียด ซึ่งแพทย์ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด และยังจะอยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองภาครัฐต่อไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

ส่วนในเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.บุญรับ ยุบล สารวัตรสอบสวนที่เข้ามาทำคดีแทน สรุปความได้ว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน โดยรอผลการตรวจจากแพทย์ว่าผู้เสียหายแท้งบุตรหรือไม่ 

ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ระบุความผิดฐานบุกรุกเคหะสถานไว้ในบันทึกประจำวัน โดยระบุเพียงความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องกรรมสิทธิ์ของนายจ้าง ซึ่งให้ผู้เสียหายอยู่โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย ทางสำนักงานยุติธรรมจะได้ติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป