29 พฤศจิกายน 2565 พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีมีกำลังพลใช้ปืนยิง จนมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ในร้านคาราโอเกะ บริเวณสามแยกทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เหตุเกิดเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2565 ว่า ผู้ก่อเหตุคือ พันจ่าเอก ยงยุทธ ไชยคง สังกัดฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทและใช้ปืนยิงคู่กรณีที่ จากนั้นได้เข้ามอบตัวกับสารวัตรทหารเรือ จึงถูกควบคุมตัวส่งมอบให้กับตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้บาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งเข้ารักษาที่ศูนย์การแพทย์เขาหลัก และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อาการล่าสุด พ้นระยะวิกฤตแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนสาเหตุการกระทำความผิดอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของหน่วย
ที่ผ่านมา กองทัพเรือได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน โดยให้กวดขันกำลังพลของหน่วย ห้ามพกพาอาวุธปืนในสถานที่ราชการ หรือสถานที่สาธารณะโดยเด็ดขาด
ดังนั้น การกระทำของ พันจ่าเอก ยงยุทธ เป็นการฝ่าฝืนมาตรการที่ได้กำหนดไว้ กองทัพเรือได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการของกรมจเรทหารเรือ และฐานทัพเรือพังงา ตามลำดับ ปัจจุบัน พันจ่าเอก ยงยุทธ อยู่ระหว่างจำขัง 7 วัน ตั้งแต่ 23 พฤศจิกายน 2565 และจะครบกำหนดวันนี้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่การดำเนินการทางวินัย ที่ได้ลงโทษขั้นสูงสุดคือการปลดออกจากราชการต่อไป
ในส่วนของคดีจะเป็นไปตามกระบวนศาล กองทัพเรือจะให้ความร่วมมือกับตำรวจในการดำเนินคดีเต็มที่ เพื่อเน้นย้ำว่าจะไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิด รวมทั้งกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมมอบเงินเยียวยาส่วนหนึ่งให้กับญาติของผู้บาดเจ็บ ขณะที่ครอบครัวของ พันจ่าเอก ยงยุทธ ก็ได้มาเข้าเยี่ยมและมอบเงินเยียวยาให้กับญาติเพิ่มเติม ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนเจรจาต่อรองค่าเสียหายกัน
กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อประชาชน รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตามนโยบายของ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความมุ่งหวังให้กำลังพลของกองทัพเรือ มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งกองทัพเรือขอยืนยันว่าจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาดและจะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
พร้อมทั้งจะเพิ่มมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีกในอนาคต และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ากองทัพเรือจะไม่มีการปกป้องคนผิดไม่ว่าจะเป็นกำลังพลในระดับใดก็ตาม