วานนนี้ (22 ก.ย.65) นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดเลย ร้องเรียนต่อสื่อว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 เวลา 23.00 น. นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี หลานสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนชายโรงเรียนเดียวกันลอบมาที่หอกักตัวนักเรียนหญิงที่ติดโควิด -19 จากนั้นได้บังคับข่มขืนหลานสาว ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน
หลังเกิดเหตุหลานสาวได้มาบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงร้องเรียนไปทางโรงเรียนแต่โรงเรียนขอร้องให้ปิดข่าวเนื่องจากเกรงว่าจะเสียชื่อเสียง จากนั้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 จึงได้ร้องเรียนไปที่กระทรวงศึกษาธิการ ขอตรวจสอบ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าจึงร้องเรียนมาทางสื่อ
นางสาวเอ เล่าว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนแจ้งให้ทราบว่า หลานสาวมีพฤติกรรมเรื่องชู้สาวในหอพัก ให้ผู้ปกครองมาพบ จึงเดินทางไปพบเพื่อขอข้อมูล แต่ทางรองผู้อำนวยการโรงเรียนและครูฝ่ายปกครอง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสมยอมของนักเรียนที่นัดเพื่อนชาย โดยทางโรงเรียนสรุปว่าเป็นการสมยอมกัน ทำผิดกฎโรงเรียนจะให้ออกจากโรงเรียน แต่เกรงว่านักเรียนจะเสียอนาคต จึงให้โอกาสเด็กเรียนต่อ โดยยื่นขอเสนอให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้ทางโรงเรียนฉีดยาคุมไว้
“จากนั้นพยายามจะนำตัวหลานสาวกลับบ้าน แต่ทางโรงเรียนไม่ยินยอมอ้างว่านักเรียนกำลังใกล้สอบ แต่ได้ยืนยันกับทางโรงเรียนว่าจะนำตัวหลานสาวกลับ พร้อมกันนี้ได้ร้องเรียนและขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และกระทรวงศึกษาธิการ แต่สุดท้ายไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวง จึงทำให้ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.65 เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กในวันที่ 27 ก.ย.65” น.ส. เอ กล่าว
นางสาวฟ้า ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 นักเรียนชาย 4 คน ขึ้นมาที่หอพักกักตัวนักเรียนหญิง ที่ติดโควิดกว่า 30 คน แล้วไปนอนกับนักเรียนหญิง 4 คน ต่อหน้าเพื่อนในห้องกว่า 30 คน
จากนั้นวันที่ 24 ส.ค.65 ขณะที่ นอนอยู่ นักเรียนชายกลุ่มเดิม มาด้วยกัน 6 คน มานอนกับนักเรียนหญิง 5 คน เหลือคนที่ 6 เข้ามาบังคับข่มขืน ตน ต่อหน้าเพื่อนกว่า 30 คน จากนั้นทั้งหมดออกจากหอพักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนนักเรียนหญิงในห้องที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าร้อง เพราะโดนข่มขู่ไม่ให้ยุ่ง ส่วนครูที่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกนักเรียนหญิงไปสอบถาม พร้อมอ้างว่า ครูบังคับให้บอกกับผู้ปกครองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสมยอม