หลังจากเกิดกระแสดราม่าร้องเรียนโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนชั้นประถมแห่งหนึ่งใน จังหวัดนนทบุรี ปล่อยให้เด็กกินมาม่าวันเว้นวัน เนื่องจากได้งบประมาณ 21 บาทต่อหัวต่อวัน และได้ออกมาแก้ข่าวตามที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ (อ่านข่าวย้อนหลัง)
ล่าสุด !! ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ โรงเรียนวัดท่าโพ โรงเรียนขนาดเล็กในชนบท อำเภอหนองขาหย่าง จัดโครงการอากลางวันสุดหรู ให้นักเรียนทานแบบอิ่มไม่อั้น มีสีสันน่ารับประทาน จัดเต็มทั้งเนื้อสัตว์และผัก ผลไม้ ส่งผลให้เด็กทานอาหารครบห้าหมู่ ให้นักเรียนอิ่ม อร่อย มีความสุข ทุกวัน และเป็นสิ่งจูงใจให้เด็กนักอยากมาโรงเรียน ทั้งที่ได้งบประมาณ 21 บาทต่อวันเช่นกัน
การลงพื้นที่ครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Gartoon Thammathitipong ซึ่งเป็นคุณครูรับผิดชอบโครงการอากลางวัน ได้โพสต์ โดยมีข้อความ
"จุดแข็ง : คิดเมนูอาหารกลางวันนักเรียนเก่งมาก จุดอ่อน : อยู่บ้านแม่คิดและทำให้ทุกมื้อ #รีวิวอาหารกลางวันโรงเรียนวัดท่าโพ ครูเลือกซื้อวัตถุดิบเอง ช้อปเอง จ่ายเอง เดินตลาดเก่งกว่าเดินออกกำลังกาย ยกของประหนึ่งว่าเล่นกีฬายกน้ำหนัก หมูได้ ไก่ได้ ผักก็ดี มี 2 อย่างที่ยังไม่เคยยก คือถังแก๊สกับกระสอบข้าว คิดเมนูแบบกุมขมับทุกวันเพราะอยากให้อาหารหน้าตาดี (เหมือนครูที่ รร.) #หยอกกก เพราะอยากให้ดูน่าทาน เด็กๆจะได้แฮปปี้แหละ แม่ครัวก็สู้ชีวิตมาก คิดอะไรทำได้หมด 555 อะไรไม่มีก็วิ่งไปเอาที่บ้านมาให้ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่าาาา#ปีนี้ที่ท่าโพ#มีเมนูผักเพื่อให้เด็กลดความอ้วน#ลดตั้งแต่พฤษภาพอสิงหาหนักกว่าเดิม#ฉันเหนื่อยกับเด็กมากนะ555 #ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่เมตตาเด็กๆด้วยนะคะ#อนุโมทนาบุญกันค่าาา โดยมีภาพอาหารกลางวันสุดหรู ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางชื่นชม และให้กำลังใจครู ที่ต้องใช้งบที่มีอยู่แต่ได้อาหารที่มีคุณค่าและน่ารับประทาน"
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียน วัดท่าโพ พบกับคุณครูที่รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน และแม่ครัว กำลังปรุงอาหารกลางวันหลากหลายเมนูให้เด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงนักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 จำนวน 100 คน ประกอบด้วยเมนูข้าวผัดอมเมริกัน นักเก็ตไก่ ฮอทดอก ต้มฟักไก่มะนาวดอง และขนมมินิวาฟเฟิล มีมีสันน่ารับประทานแถมยังตักได้ไม่อั้นอีกด้วย
นางณัฏฐ์นรีรชา เกตุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดท่าโพ ได้บอกกับทีมข่าวว่า ทางโรงเรียนได้มีนโยบายอาหารกลางวัน ให้นักเรียนอิ่ม อร่อย มีความสุข โดยมอบหมายให้คุณครู ดูแลรับผิดชอบบริหารจัดการ ตั้งแต่การเลือกเมนู การคัดสรรวัตถุดิบ และควบคุมการทำอาหารของแม่ครัว รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนด้วยว่า ในอาทิตย์นี้นักเรียนอยากจะรับประทานอะไรกันบ้าง ที่นักเรียนเคยเห็นตามทีวี คุณครูก็จะจัดให้นักเรียนได้รับทานตามความต้องการของนักเรียน สำหรับงบประมาณเราได้รับจัดสรร 21 บาท ต่อคน ต่อวัน เท่ากับทุกโรงเรียน ซึ่งไม่เพียงต่อการให้นักเรียนทานอิ่มแบบเติมไม่อั้น เพราะว่าถาดนึงคิดถัวๆกันแล้ว เกิน 21 บาท แล้ว เราจึงใช้วิธีการระดมทุนจากกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และใช้การบริหารจัดการงบประมาณที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยให้คุณครูเป็นผู้จ่ายตลาดเอง เพื่อลดต้นทุน โดยมีเมนูแต่ละวันที่แตกต่างกันไปหลากหลายเมนูแบบไม่ซ้ำ เช่น เช่น ต้มข่าไก่ ไข่ลูกเขย ส้มสายน้ำผึ้ง- เยลลี่รสผลไม้ , มักกะโรนีผัดซอส (ไส้กรอก) น้ำซุป ผลไม้ มะละกอสุก เป็นต้น
ทางด้านนางสาวปัทมาภรณ์ ธรรมฐิติพงษ์ ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน กล่าวว่าตนเองได้รับมอบหมายให้คิดเมนู รวมทั้งจัดหาวัตถุดิบต่างๆ มาให้แม่ครัวดำเนินการปรุงอาหาร ซึ่งทำให้ได้วัตถุดิบที่มากขึ้น คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยในแต่ละวันจะเน้นให้เด็กๆได้ทานกับข้าวอย่างน้อย 2 อย่าง
โดยจะมีอาหารคาว และขนมหวาน หรือผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากการเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลจะทำให้ได้วัตถุดิบราคาถูกลง จะสามารถซื้อได้ปริมาณมากขึ้น จึงจะเพียงพอต่อนักเรียนในโรงเรียน และอาหารกลางวันที่ได้จัดทุกวันจะเน้นอาหารครบห้าหมู่ เนื่องจากเด็กที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับประทานข้าวเช้ามาจากที่บ้าน จะสามารถทดแทนในมื้อที่โรงเรียนได้ เนื่องจากมีเนื้อ มีผัก ครบ
อีกอย่างจะเป็นการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการต่างๆ เช่นผอม หรืออ้วนจนเกินไป ก็ดำเนินการสนองนโยบายทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือ สพฐ ด้วย โดยสร้างสีสันให้เด็กๆอยากรับประทานผัก หรือรับประทานอาหารมากขึ้น จะเลือกผักที่มีสีสันหลากหลาย เช่น ข้าวผัด จะใส่ผักไปอย่างน้อย 3-4 สีเพื่อดึงดูดให้เด็กๆ เกิดความอยากประทานและรู้จักผักได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมเป็นการจูงใจให้เด็กนักเรียนมาโรงเรียนทุกวัน อีกด้วย และบางมื้อก็จะมีผู้ใหญ่ใจดีนำขนมมาจัดเสริมให้เพิ่มเติม หรือบางวันก็มีผู้ใหญ่ใจดีจัดอาหารกลางวันมาเลี้ยงเด็ก ก็จะทำให้วันนั้นไม่ต้องจัดอาการกลางวันทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้อีก