สำนักงานอัยการเขตชอนจู เปิดเผยว่า อัยการตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ในคดีติดสินบนในวันพฤหัสบดี (24 เมษายน) โดยกล่าวหาว่า เขาใช้อิทธิพลในฐานะประธานาธิบดี เพื่อช่วยให้อดีตลูกเขย ซึ่งระบุเพียงนามสกุลว่า “ซอ” ได้ตำแหน่งระดับผู้บริหารในสายการบินไทย อีสตาร์ เจ็ต สายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ในประเทศไทย ในปี 2561 แม้ว่าเขามีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยในอุตสาหกรรมการบิน
ขณะที่สายการบินไทย อีสตาร์ เจ็ต อยู่ภายใต้การบริหารของอี ซาง จิก อดีตสมาชิกรัฐสภาจากพรรคประชาธิปไตย ที่ผันตัวเป็นนักธุรกิจ ในช่วงปี 2561-2563
และอัยการสอบสวนว่า การแต่งตั้งนายอีเป็นซีอีโอของสำนักงานกำกับดูแลธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพ เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนเพื่อให้อดีตลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีมุนได้รับการจ้างงานและเงินเดือนที่มั่นคงในไทย อีสตาร์ เจ็ต หรือไม่
นอกจากนี้นายมุนและลูกสาว มุน ทา-เฮ ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนในรูปเงินเดือนและเงินอื่น ๆ ที่นายซอได้รับจากสายการบิน ทั้งคู่หย่ากันในปี 2564
การตั้งข้อหานายมุนมีขึ้นในขณะที่พรรคต่าง ๆ กำลังเร่งหาเสียงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะจัดขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติในต้นเดือนนี้ให้อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล พ้นจากตำแหน่งตามกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
แม้ยังไม่มีปฏิกิริยาจากนายมุน แต่พรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ประณามรุนแรงต่อการดำเนินการของอัยการ โดยกล่าวหาว่า เป็นการดำเนินคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง เพื่อมุ่งทำลายชื่อเสียงของนายมุนและพรรค