ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เริ่มการเยือนกรุงฮานอยของเวียดนามนาน 2 วัน ในวันจันทร์ (14 เมษายน) โดยได้รับการต้อนรับด้วยกองทหารเกียรติยศ และการยิงสลุต 21 นัดที่จัตุรัสทำเนียบประธานาธิบดี หลังจากนั้นเขาพบหารือกับโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่สำนักงานของพรรคคอมมิวนิสต์
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายสิบฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง การผลิตและซัพพลายเชน, ความร่วมมือก่อสร้างทางรถไฟ
ขณะที่นายเลิมระบุในบทความที่เผยแพร่ในสื่อของทางการในวันนี้ด้วยว่า เวียดนามต้องการส่งเสริมความร่วมมือทั้งด้านการป้องกันประเทศ, ความมั่นคง และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะทางรถไฟ
การเยือนเวียดนามครั้งนี้เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของประธานาธิบดีสีในปีนี้ โดยเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 นับจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเป็นครั้งที่สองในระเวลา 18 เดือน เขาได้รับคำเชิญจากนายเลิม และประธานาธิบดีเลือง เกื่อง และปีนี้ยังเป็นวาระสำคัญครบรอบ 75 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและเวียดนาม
การเยือนมีขึ้นในช่วงที่ทั้งจีนและเวียดนามกำลังเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยสินค้าจีนเผชิญภาษีสูงถึง 145% และเวียดนามเจอภาษี 46% ซึ่งเวียดนามกำลังพยายามติดต่อเจรจาเพื่อขอลดภาษีก่อนที่การระงับภาษีนาน 90 วันจะสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคม
ประธานาธิบดีสี เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Nhan Dan ของเวียดนามฉบับวันจันทร์ โยย้ำความจำเป็นที่จีนและเวียดนามต้องร่วมมือกันปกป้องระบบการค้าพหุภาคี, รักษาเสถียรภาพของการผลิตและซัพพลายเชนของโลก และสร้างบรรยากาศความร่วมมือและการเปิดกว้างในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ผู้นำจีนยังมีกำหนดเยือนมาเลเซียและกัมพูชาในช่วงวันอังคารถึงวันศุกร์ด้วย ก่อนหน้านี้เขาเยือนกัมพูชาครั้งสุดท้ายเมื่อ 9 ปีที่แล้ว และเยือนมาเลเซียครั้งสุดท้ายเมื่อ 12 ปีที่แล้วตามลำดับ