พิธีตัดริบบิ้นเปิดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ World Expo 2025 จัดขึ้นที่เกาะยูเมชิมะ ซึ่งเป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นในอ่าวโอซากาของญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (13 เมษายน ) เพื่อเริ่มต้นเปิดงานให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ และมีนักท่องเที่ยวเข้าแถวรอที่หน้าประตูทางเข้าท่ามกลางสายฝน และสถานีรถไฟยูเมชิมะมีฝูงชนแออัดเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงาน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังแห่ถ่ายรูปคู่กับเมียะคุ เมียะคุ ที่เป็นมาสคอตของงานนี้ด้วย
บน “วงแหวนยักษ์” ที่เป็นสัญลักษณ์ของงาน มีนักร้องเกือบ 10,000 คน ร่วมขับร้องเพลง ซิมโฟนีหมายเลข 9 ของบีโธเฟน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว วงแหวนยักษ์นี้เป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และโอบล้อมรอบพาวิลเลียนของต่างประเทศทั้งหมดไว้ โดยมีเส้นรอบวงเกือบ 2 กม.
ผู้จัดงาน คาดว่า จะมีประชาชนมากกว่า 140,000 คน เข้าร่วมชมงานในวันแรก และคาดว่า ตลอดการจัดงานนาน 6 เดือน ถึงวันที่ 13 ตุลาคม จะมีผู้ชมงานมากกว่า 28 ล้านคน
งานนี้มี 158 ประเทศและดินแดน เข้าร่วมแสดงสินค้าและเทคโนโลยีหลากหลายชนิด โดยยูเครนและปาเลสไตน์ที่เผชิญกับสงคราม ก็ยังเข้าร่วมงานนี้ โดยธีมงานของปีนี้มุ่งเน้นการออกแบบสังคมในอนาคตที่มีความยั่งยืน และผู้จัดงานหวังว่า งานนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ส่วนพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางที่มีกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ โดยมีสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ พร้อมด้วยมกุฎราชกุมารอากิชิโนะ และเจ้าหญิงมาซาโก และผู้มีเกียรติเกือบ 1,300 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วม
รัฐบาล คาดหวังว่า World Expo ที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จะสร้างรายได้ 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยประเมินจากเป้าหมายจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 28.2 ล้านคน แม้ว่างานนี้เปิดฉากโดยบางพาวิลเลียนยังตกแต่งไม่เสร็จและงบประมาณจัดงานบานปลาย โดยสูงขึ้นเกือบ 2 เท่าจากที่ประเมินเบื้องต้นเป็น 235,000 ล้านเยน นอกจากนี้ยอดขายบัตรเข้าชมงานล่วงหน้ายังต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยจนถึงเมื่อวันพุธมียอดขายตั๋วล่วงหน้าราว 9 ล้านใบ นับจากเริ่มเปิดจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ต่ำกว่า 14 ล้านใบที่ตั้งเป้าไว้