ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 2 ฉบับเกี่ยวกับการเก็บภาษีตอบโต้ที่ส่งผลกระทบต่อ 185 ประเทศและดินแดนเมื่อวันพุธ (3 เมษายน) โดยฉบับหนึ่งกำหนดเก็บภาษีพื้นฐานขั้นต่ำอย่างน้อย 10% กับสินค้าจากทุกประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 5 เมษายน และอีกฉบับกำหนดเก็บภาษีในอัตราสูงกว่านี้กับอีก 60 ประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วยมากที่สุดด้วยอัตราแตกต่างกัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 9 เมษายน และผู้นำหลายประเทศทั่วโลกออกมาวิจารณ์ทันทีว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดและไม่สมเหตุผล
จีนอาจเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการขยายสงครามการค้าในวงกว้างทั่วโลกของทรัมป์ครั้งนี้ โดยจีนจะถูกเก็บภาษี 34% สำหรับสินค้าทุกชนิด เพิ่มขึ้นจากอัตราภาษี 20% ที่ทรัมป์ประกาศช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม
บทความในหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ที่ถูกมองว่าเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประณามการเก็บภาษีอัตราใหม่ของทรัมป์ว่า เป็นการแบล็กเมล
และกระทรวงพาณิชย์ของจีน บอกว่า ประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การขึ้นภาษีจะไม่ช่วยแก้ปัญหาของสหรัฐฯ และยังทำลายผลประโยชน์ของตัวเองด้วย รวมถึงกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และเสถียรภาพของอุตสาหกรรมและซัพพลายเชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรเพียงฝ่ายเดียวทันที และแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาอย่างเสมอภาคกับชาติหุ้นส่วน
นอกจากนี้โฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า จีนคัดค้านการตัดสินใจของสหรัฐฯ อย่างหนักแน่น และจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของชาติ
ขณะเดียวกันอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวภายหลังสหภาพยุโรปเจอภาษีอัตราใหม่ 20% โดยเตือนถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาอย่างมหาศาลว่า เศรษฐกิจโลกจะเจ็บหนัก เกิดความไม่แน่นอน และทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก ที่จะต้องเผชิญราคาสินค้าแพงขึ้น ธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบเช่นกัน
เธอบอกด้วยว่า ยุโรปกำหนดมาตรการตอบโต้ระลอกแรกสำหรับการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ และเตรียมมาตรการตอบโต้เพิ่มเติมอีก หากการเจรจาล้มเหลว
นอกจากนี้บราซิล ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา อนุมัติกฎหมายตอบโต้ทางเศรษฐกิจเมื่อวันพุธ เพื่อเตรียมตอบโต้ภาษีอัตราใหม่ของทรัมป์ และจะประเมินมาตรการทั้งหมดที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการยื่นฟ้องถึงองค์การการค้าโลก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจของอิสราเอล แสดงความตกใจอย่างมากที่เจอภาษีอัตราใหม่ 17% ทั้งที่มั่นใจว่าการตัดสินใจของรัฐบาลที่ยกเลิกภาษีทั้งหมดกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จะทำให้หลีกเลี่ยงได้
และไต้หวัน ซึ่งเผชิญภาษีอัตรา 32% บอกว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจและไร้เหตุผลอย่างมาก ขณะที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้รับยกเว้นจากภาษีอัตราใหม่