อีไล โคเฮน รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอล เผยเมื่อวันอาทิตย์ (9 มีนาคม) ว่า เขาลงนามในคำสั่งให้ระงับการจ่ายไฟฟ้าในฉนวนกาซาทันที และรัฐบาลจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อให้มั่นใจว่าตัวประกันที่เหลือทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวจากฉนวนกาซา และบริษัทไฟฟ้าอิสราเอล ยืนยันตัดไฟแล้ว
นอกจากนี้อิทามาร์ เบน กวีร์ นักการเมืองหัวขวาจัดสนับสนุนมาตรการของกระทรวงพลังงาน โดยบอกว่า ฉนวนกาซาควรตกอยู่ในความมืดจนกว่าตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด และเรียกร้องให้รัฐบาล ระเบิดทำลายเชื้อเพลิงที่ลำเลียงเข้าสู่ฉนวนกาซาและเครื่องปั่นไฟของฮามาส
อิสราเอลเคยตัดไฟในฉนวนกาซาตั้งแต่ช่วงแรกของสงครามที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 แต่ต่อมาบริษัทไฟฟ้าอิสราเอลเชื่อมต่อไฟฟ้าป้อนโรงบำบัดน้ำเสียตามคำสั่งของรัฐบาล ขณะที่ชาวกาซาส่วนใหญ่พึ่งพาเครื่องปั่นไฟและพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า
โฆษกฮามาส ประกาศว่า การตัดไฟล่าสุดมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่วิจารณ์ว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันเจตนาของอิสราเอลในการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อกาซา ด้วนการใช้นโยบายทำให้อดอยาก โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและบรรทัดฐานระหว่างประเทศทั้งมวล
การตัดไฟมีขึ้นหลังจากในสัปดาห์ที่แล้วอิสราเอลไม่อนุญาตให้ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดเข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อหวังกดดันให้ฮามาสยอมรับข้อเสนอขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวอีก 6 สัปดาห์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่ครบกำหนดสิ้นสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตแล้ว และการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ และอนุญาตให้ความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา แต่ไม่มีคำสัญญาว่าจะยุติสงครามอย่างถาวร และฮามาสยยืนยันว่าต้องการให้เริ่มข้อตกลงหยุดยิงเฟสสอง ที่กำหนดว่าจะมีการเจรจาเพื่อยุติสงครามอย่างถาวร
คณะเจรจาของฮามาสเดินทางถึงอียิปต์เมื่อวันศุกร์เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงหยุดยิงเฟสสอง และอิสราเอลตอบรับคำเชิญของคณะผู้ไกล่เกลี่ย โดยส่งคณะเจรจาไปยังกรุงโดฮาของกาตาร์ในวันจันทร์ (10 มีนาคม)
ขณะที่ในช่วงการหยุดยิงเฟสแรกนาน 6 สัปดาห์มีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่มีชีวิต 25 คน และศพตัวประกันอีก 8 ศพ และการปล่อยตัวนักโทษและผู้ต้องขังปาเลสไตน์เกือบ 1,800 คน และข้อมูลจากทำเนียบรัฐบาลอิสราเอล ระบุว่า น่าจะยังมีตัวประกันเหลืออยู่ในฉนวนกาซา 59 คน ซึ่งเกินครึ่งอาจเสียชีวิตแล้ว