ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี นายกรัฐมนตรีของกาตาร์ ที่เป็นตัวกลางสำคัญในการเจรจาไกล่เกลี่ย แถลงเมื่อวันพุธ (15 มกราคม) ว่า ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม และผู้แทนของทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจาเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติตามข้อตกลง
ข้อตกลงเฟสแรกนี้กำหนดให้มีการหยุดยิงเบื้องต้นนาน 6 สัปดาห์ โดยระหว่างนี้อิสราเอลจะทยอยถอนทหารออกจากฉนวนกาซา และตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับตัวไปฉนวนกาซา 33 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ จะได้รับการปล่อยตัวแลกกับอิสราเอลปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังไว้ ขณะที่อิสราเอล คาดว่า ยังมีตัวประกัน 94 รายอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งคาดว่า 34 รายเสียชีวิตแล้ว และรถบรรทุกความช่วยเหลือหลายร้อยคันจะได้รับอนุญาตเข้าสู่ฉนวนกาซาในแต่ละวัน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อตกลงบรรลุผลได้หลังการเจรจาอย่างเข้มข้นในช่วง 96 ชม.สุดท้าย ภายใต้การไกล่เกลี่ยของนักการทูตจากทั้งกาตาร์ สหรัฐฯ และอียิปต์ ที่กรุงโดฮา หลังมีการเจรจามานานหลายเดือนสลับกับการหยุดชะงัก
แม้มีข่าวบรรลุข้อตกลง แต่ชาวปาเลสไตน์ เปิดเผยว่า ยังมีการโจมตีทางอากาศจากอิสราเอลในฉนวนกาซาในค่ำวันเดียวกัน และหน่วยงานสาธารณสุขของกาซา เปิดเผยว่า การโจมตีในเมืองกาซาซิตีและทางตอนเหนือของฉนวนกาซาล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย
อิสราเอลเริ่มเปิดฉากสงครามในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 หลังฮามาสบุกโจมตีทางภาคใต้ของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 ราย และอีกกว่า 250 คนถูกจับเป็นตัวประกัน และการสู้รบที่ยืดเยื้อยาวนาน 15 เดือน ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 46,645 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 110,000 ราย
แต่ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะของอิสราเอล ที่กำหนดลงมติในวันพฤหัสบดี (16 มกราคม)
ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนในฉนวนกาซาด้วยความยินดี และครอบครัวของตัวประกันอิสราเอล ที่ชุมนุมในกรุงเทลอาวีฟ สวมกอดด้วยความโล่งอกและความยินดีที่จะได้เห็นบุคคลที่รักได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล โทรศัพท์ถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน และว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพื่อขอบคุณสำหรับการผลักดันข้อตกลง และบอกว่าจะไปเยือนกรุงวอชิงตันเร็ว ๆ นี้
ส่วนคาลิล อัล-เฮย์ยา รักษาการผู้นำฮามาสในฉนวนกาซาและหัวหน้าคณะเจรจา บอกว่า ข้อตกลงเป็นหมุดหมายสำคัญของความขัดแย้ง และเป็นหนทางสู่การบรรลุเป้าหมายของชาวปาเสลไตน์ในการปลดแอกและการกลับบ้าน เขาบอกด้วยว่า ฮามาสจะฟื้นฟูฉนวนกาซาอีกครั้ง และเยียวยาความเจ็บปวด แต่เตือนว่าจะยังไม่ลืมและไม่ให้อภัยสำหรับความทุกข์ยากที่ชาวปาเลสไตน์ในกาซาได้รับ
ขณะที่นายกรัฐมนตรีของกาตาร์ บอกด้วยว่า สำหรับการเจรจาข้อตกลงเฟสสองจะเริ่มได้ในวันที่ 16 ของการหยุดยิงเฟสแรก โดยเนื้อหาจะเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันที่เหลือ และอิสราเอลถอนทหารที่เหลือทั้งหมด เพื่อนำไปสู่ความสงบอย่างยั่งยืน ส่วนเฟสสามที่เป็นเฟสสุดท้ายจะมุ่งประเด็นการฟื้นฟูฉนวนกาซา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาหลายปี และการคืนศพตัวประกันที่เหลือ โดยกาตาร์ สหรัฐฯ และอียิปต์ จะยังคงทำงานร่วมกันเพื่อไกล่เกลี่ยให้บรรลุข้อตกลง และกำกับให้สองฝ่ายปฏิบัติตามเงื่อนไข