มิวนิค รี บริษัทประกันภัยของเยอรมนี เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกในปี 2567 ความเสียหายที่ได้รับการประกันภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง พายุไซโคลน, น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ในทั่วโลกมีมูลค่ารวมกว่า 140,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดอันดับ 3 ของอุตสาหกรรมประกันภัยนับจากปี 2523
ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศและมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น มีสวนเกี่ยวข้องกับความเสียหายมากถึง 93% ของความเสียหายทั้งหมด และ 97% สำหรับความเสียหายที่ได้รับการประกัน
นอกจากนี้ภัยพิบัติในปี 2567 ยังคร่าชวิตประชาชนเกือบ 11,000 ราย ลดลงจากค่าเฉลี่ยต่อปีที่ 17,500 ราย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และสร้างความเสียหายที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยอีก 180,000 ล้านดอลลาร์
ในเอเชีย ภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด คือ แผ่นดินไหวในวันปีใหม่ที่ญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิต 245 ราย และสร้างความเสียหาย 15,000 ล้านดอลลาร์ และพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ที่สร้างความเสียหายทั้งในฟิลิปปินส์, จีน, เวียดนาม และอีกบางประเทศในเดือนกันยายน มีผู้เสียชีวิตรวม 845 ราย และความเสียหาย 14,000 ล้านดอลลาร์
ส่วนภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในโลกในปีที่แล้ว คือ พายุเฮอร์ริเคน “เฮลีน” และ “มิลตัน” ที่พัดถล่มสหรัฐฯ ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 254 ราย และสร้างความเสียหาย 94,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง 41,000 ล้านดอลลาร์มีประกัน
นอกจากนี้สเปนประสบภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดเมื่อช่วงเดือนตุลาคม มีผู้เสียชีวิต 229 ราย และความเสียหาย 11,000 ล้านดอลลาร์
ผลการศึกษาของ World Weather Attribution (WWA) พบว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มีส่วนทำให้กระแสลมและฝนตกรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงพายุเฮอร์ริเคน “เฮลีน” และ “มิลตัน” พัดถล่มสหรัฐฯ โดยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ในช่วงพายุเฮลีนพัดถล่ม มีฝนตกเพิ่มขึ้น 10% และความเร็วลมของพายุเพิ่มขึ้น 11%