svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

อนามัยโลก-ยูเอ็น อวยพรปีใหม่ วอนสันติภาพ หลังผจญสงครามทั้งปี

ผู้อำนวยการอนามัยโลก ที่รอดหวุดหวิดจากการโจมตีสนามบินในเยเมน ส่งสารก่อนวันปีใหม่ ย้ำว่า สันติภาพเป็นยาที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ของทุกคน และเลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้โลกมีสันติภาพมากขึ้น และร่วมกันต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่คลิปเพื่ออวยพรปีใหม่เมื่อวันจันทร์ (30 ธันวาคม) โดยเรียกร้องให้ผู้นำโลกนำสันติภาพที่ต้องการอย่างยิ่งกลับคืนสู่โลก และสุขภาพและความปลอดภัยแก่ทุกคน โดยย้ำว่า สันติภาพเป็นยาดีที่ที่สุดสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนและทุกที่

เขายังเล่าด้วยว่า ช่วงคริสต์มาสขณะเยือนเยเมนเพื่อเจรจาให้กลุ่มฮูตีปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ยูเอ็นและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์อื่น ๆ โดยระหว่างรอขึ้นเครื่องบินในกรุงซานา สนามบินก็ถูกโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล การโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตและความเสียหาย และตอกย้ำถึงภัยอันตรายต่อพลเรือน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และสาธารณสุขขณะอยู่ในพื้นที่สู้รบทั่วโลก และ “สิ่งนี้ต้องยุติ”

นอกจากนี้เขายกตัวอย่างความสำเร็จด้านสาธารณสุขในช่วงปี 2024 ว่า สามารถกำจัดโรคมาลาเรียและโรคอื่น ๆ ที่ละเลยในหลายประเทศ, 17 ประเทศในแอฟริกาได้ใช้วัคซีนโรคมาลาเรียตัวใหม่, มีการผลิตวัคซีนใหม่ป้องกันไข้เลือดออก รวมถึงมีการรับรองวัคซีนโรคเอ็มพ็อกซ์ หรือ ฝีดาษลิงครั้งแรกและการทดสอบ และการส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุขทั่วโลกเพื่อป้องกันการระบาดทั่วโลกในอนาคต จำเป็นต้องทำงานอีกมากในปี 2025 และเรียกร้องให้เพิ่มการลงทุนเพื่อส่งเสริมและปกป้องสุขภาพ

สุดท้ายเขาเรียกร้องให้ปีใหม่นี้ร่วมกันเปลี่ยนการสู้รบ สู่หนทางใหม่เพื่อบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืน และสร้างอนาคตที่ดีและรุ่งเรืองสำหรับทุกคน

ขณะที่อันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เผยแพร่คลิปอวยพรปีใหม่ โดยระบุว่า ตลอดปี 2024 ความหวังเป็นสิ่งที่หาได้ยาก สงครามสร้างความเจ็บปวด, ความทุกข์ยากและการพลัดถิ่นฐานครั้งใหญ่ ขณะที่ความไม่เท่าเทียม และความแตกแยกจุดชนวนความตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจ

นอกจากนี้เขายังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเตือนว่า ปีที่ร้อนที่สุด 10 อันดับแรกเกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงปี 2024 และโลกจำเป็นต้องออกจากเส้นทางสู่หายนะ  และในปี 2025 ทุกประเทศต้องช่วยกันทำให้โลกอยู่บนเส้นทางที่ปลอดภัยด้วยการลดการปล่อยคาร์บอน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนในอนาคต

เขาบอกด้วยว่า ไม่อาจรับประกันได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2025 แต่สัญญายืนหยัดเคียงข้างกับทุกคนที่ทำงานเพื่ออนาคตที่ดี, มีเสถียรภาพ, ความเท่าเทียม และสันติภาพมากขึ้นสำหรับทุกคน รวมทั้งบอกด้วยว่า หากร่วมมือกันก็จะสามารถทำให้ปี 2025 เป็นการเริ่มต้นใหม่ ไม่เป็นโลกที่แบ่งแยก แต่เป็นนานาประเทศที่สามัคคีกัน