สุดสลดส่งท้ายปี เพื่อนบ้านสังหาร "อเมริกันบูลลี่" เปิบพิสดารขายปีใหม่

31 ธันวาคม 2567 สุดสลดส่งท้ายปี สังหาร "อเมริกันบูลลี่" โดย นางจรูญ เจริญคุณ อายุ 62 ปี ชาวบ้าน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กริชพัฒน์ แก้วอุดร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ภูเขียว เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่ามี นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นคนที่อยู่ใกล้บ้านพักใช้มีดทำร้ายสุนัขของตนจนเสียชีวิต

สุนัขที่ถูกใช้มีดปาดลำคอ ชื่อ น้องแพนด้า เป็นสุนัขสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่ลูกผสมตัวผู้ ที่ซื้อเลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนี้อายุประมาณ 1 ปี 2 เดือน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 29 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา 

หลังสุนัขถูกทำร้าย ได้รีบนำสุนัขไปรักษาที่ คลินิกรักษาสัตว์ต่อมาเสียชีวิตเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้นำสุนัขไปฝังละนิมนต์พระในหมู่บ้ายมาช่วยทำพิธีให้น้องสุนัขที่ตัวเองรักมาก ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดี กับ นายเอ ผู้ก่อตุครั้งนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดตำรวจ สภ.ภูเขียว ได้นำตัวนายเอ มาสอบสวนที่ สภ.ภูเขียว และเจ้าตัวยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุโหดครั้งนี้จริง อ้างว่าเพื่อหวังจะนำเนื้อสุนัขไปทำเนื้อแดดเดียวและต้มเก้าเมนูเด็ดยอดฮิตในช่วงหน้าหนาวให้กับกลุ่มลูกค้าชอบเปิบพิสดารในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่

นายเอ สารภาพว่า ระหว่างก่อเหตุได้มีเจ้าของสุนัขตามมาเห็น จึงยังไม่ได้ลงมือทำร้ายซ้ำ ก่อนที่เจ้าของสุนัขนำสุนัขจะเข้ามาช่วยนำตัวสุนัขตัวเอง ไปส่งคลินิกรักษาสัตว์

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ พบกับนางจรูญ เจ้าของน้องแพนด้า "อเมริกันบูลลี่" เล่าให้ฟังว่า ตนเองนั้นซื้อสุนัขมาเลี้ยงตอนนั้นสุนัขอายุได้ประมาณ 2 เดือนในราคา 2,500 บาท ซึ่งสุนัขที่เลี้ยงไว้จะเดินไปมาและเล่นกับลูกหลานของตนอยู่ที่บ้านไม่เคยไปไหน ซึ่งวันเกิดเหตุเป็นวันพระ น้องแพนด้า ได้เดินตามหลานของตนไปที่วัด จนกระทั่งจะเอาข้าวให้ สุนัขแต่ไม่พบ จึงพากันออกตามหา

กระทั่งมาพบนอนดิ้นทุรณทุรายอยู่บริเวณหน้าบ้านของนายเอ ก่อนเข้าไปได้ถาม แต่นายเอ ปฏิเสธไม่ได้ทำร้ายสุนัข จึงได้รีบร่วมกับเพื่อนบ้านนำร่างน้องแพนด้าไปส่งรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้เดินเข้าแจ้งความความเพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ มิตรมาตย์ อายุ 42 ปี ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในครั้งแรกเห็นนายเอ ใช้มีดปาดคอสุนัขแต่ยังไม่ตาย จึงกำลังจะใช้มีดปาดคอสุนัขต่ออีกเป็นครั้งที่ 2 อีก นับว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก

ด้าน พ.ต.อ.สมิตร นันนฤมิตร ผกก.สภ.ภูเขียว หลังรับแจ้งว่ามีเพื่อนบ้านปาดคอสุนัขของเพื่อนบ้าน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ไปเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งให้การยอมรับสารภาพว่า ได้พบเห็นสุนัขตัวดังกล่าวอยู่หน้าบ้าน จึงได้ล่อให้สุนัขเข้าไปในบ้านก่อน แล้วจับตัวสุนัขไว้เพื่อใช้มีดปาดคอ เพื่อจะให้สุนัขตาย หวังที่จะนำมาทำเนื้อแดดเดียวและทำเป็นอาหารเมนูเด็ด "ต้มเก้า" แต่สุนัขดิ้นหลุด ก่อนที่จะมีเจ้าของมาเจอมาช่วยสุนัขไว้ 

นายเอ ได้สารภาพด้วยว่า ที่ผ่านมาตนเองได้เคยนำสุนัขที่ถูกรถชนหรือสุนัขที่ตายแล้วมาชำแหละเนื้อขายแล้วอยู่เป็นประจำ ไม่คิดว่าจะมีความผิด นึกว่าสุนัขตัวนี้จะไม่มีเจ้าของ จึงลงมือก่อเหตุไป 

พ.ต.อ.สมิตร กล่าวอีกว่า หลังสอบสวนเสร็จเนื่องจากไม่ใช้เหตุซึ่งหน้าต้องปล่อยตัวผู้ต้องหารายนี้ วัย 69 ปี ที่ก่อเหตุฆ่าสุนัขกลับบ้านไปก่อน ซึ่งทราบที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เพื่อรวบรวบหลักฐานต่างๆประกอบสำนวนสอบสวนขออนุมัติศาล จ.ภูเขียว เข้าจับกุมตัว อีกครั้งมาดำเนินคดีตามกฏหมายในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป