รัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติถอดถอนรักษาการ ปธน. ซ้ำเติมสุญญากาศทางการเมือง
รัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติเห็นชอบถอดถอนรักษาการประธานาธิบดี ฮัน ด็อก ซู เพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังการผ่านมติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ทำให้ภาวะสุญญากาศทางการเมืองเลวร้ายยิ่งขึ้น
สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติด้วยเสียงเอกฉันท์ 192 ต่อ 0 เสียง เห็นชอบการถอดถอนรักษาการประธานาธิบดีฮัน ด็อก ซู ในวันศุกร์ (27 ธันวาคม) โดยเป็นครั้งแรกที่รักษาการประธานาธิบดีถูกลงมติถอดถอนจากรัฐสภา นายฮันจะต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่ได้รับแจ้งมติถอดถอน ซึ่งจะส่งผลให้ ชเว ซาง มก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง ต้องควบรักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีและรักษาการนายกรัฐมนตรี
นายฮัน ระบุในแถลงการณ์ว่า “ผมเคารพการตัดสินใจของรัฐสภา และเพื่อไม่เพิ่มความสับสนและความไม่แน่นอน ผมจะระงับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรอการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและรวดเร็วของศาลรัฐธรรมนูญ”
การถอดถอนมีขึ้นเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากนายฮัน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี เนื่องจากประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ถูกลงมติถอดถอนจากรัฐสภาในวันที่ 14 ธันวาคม สำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่สร้างความวุ่นวายในประเทศ และถูกมองว่าเป็นความพยายามก่อกบฏ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ ที่ทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ในเวลาเดียวกัน
ขณะที่พรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล คัดค้านการตัดสินใจของที่ประชุม โดยบอกว่า การโหวตไม่มีผล เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่า จะต้องอาศัยเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 สำหรับการถอดถอนประธานาธิบดี
แต่วู วอน ชิค ประธานรัฐสภา ประกาศก่อนการลงมติให้อาศัยเสียงข้างมากเพียง 151 เสียงได้ สร้างความไม่พอใจแก่สมาชิกสภาของพรรคพีพีพี ที่เข้าล้อมที่นั่งประธานสภา และชูกำปั้นขึ้น พร้อมกับตะโกนว่า “ไม่มีผลและเป็นโมฆะ”
พรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ยื่นญัตติถอดถอนนายฮันเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากนายฮันปฏิเสธที่จะแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญใหม่ 3 คน โดยดีพี ระบุเหตุผล 5 ข้อที่ต้องถอดถอนเขา ซึ่งรวมถึง การไม่ยอมแต่งตั้งผู้พิพากษาในตำแหน่งที่ว่างลง, การมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน และการไม่ยอมประกาศใช้ร่างกฎหมายแต่งตั้งคณะสอบสวนพิเศษเพื่อสอบสวนนายยุนและคิม กึน ฮี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
ขณะที่พรรคพีพีพีอาจจะยื่นคำร้องขอความคุ้มครองจากศาลให้ระงับการถอดถอน หรือใช้มาตรการอื่นเพื่อให้การถอดถอนเป็นโมฆะ
การแต่งตั้งผู้พิพากษา 3 คน มีความสำคัญต่อกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อถอดถอนประธานาธิบดียุน โดยจะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีผู้พากษาครบ 9 คน ตามกฎหมายกำหนดว่า ต้องมีเสียงสนับสนุนจากผู้พิพากษาอย่างน้อย 6 คน จาก 9 คน เพื่อสนับสนุนมติถอดถอนประธานาธิบดีของรัฐสภา และจะมีผลให้ประธานาธิบดียุนต้องพ้นจากตำแหน่ง
แต่มติถอดถอนรักษาการประธานาธิบดีจะทำให้ภาวะสุญญากาศทางการเมืองในเกาหลีใต้เลวร้ายลงอีก ทำให้รัฐมนตรีคลังที่ต้องแบกภาระอีก 2 ตำแหน่ง ท่ามกลางความแตกแยกในรัฐสภา และความท้าทายมากมายทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทูต
ขณะที่ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคมก่อนยกเลิกในเช้ามืดวันรุ่งขึ้น ฉุดให้ค่าเงินวอนดิ่งลงต่ำสุดในรอบเกือบ 16 ปีในวันนี้ โดยเงินวอนอ่อนค่าลงอยู่ที่ 1,467.5 วอนต่อดอลลาร์ ลดลง 2.7 วอนจากเมื่อวันพฤหัสบดี และดัชนีหุ้น KOSPI ลดลง 2.02% และปิดตลาดที่ 2,404.77 จุดในวันนี้