svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ปธน.เกาหลีใต้ลั่นสู้ถึงที่สุด ทั้งคดีกฎอัยการศึก-ญัตติถอดถอน

ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้ ยืนยันว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการปกป้องอำนาจรัฐ ไม่ใช่การก่อกบฏ และจะต่อสู้จนถึงที่สุดไม่ว่าจะการสอบสวนคดีและกระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง ขณะที่พรรครัฐบาลส่งสัญญาณสนับสนุนการถอดถอนแล้ว

ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล แถลงทางโทรทัศน์ในวันพฤหัสบดี (12 ธันวาคม) ว่า ว่าเขาใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม เพื่อปกป้องประเทศและการบริหารงานตามปกติ หลังจากพรรคฝ่ายค้านพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ด้วยความพยายามยื่นญัตติถอดถอนหลายครั้ง และตัดลดงบประมาณที่จำเป็นสำหรับปีหน้า

เขาชี้แจงด้วยว่า ส่งทหารเข้าไปในรัฐสภาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยขณะมีประชาชนรวมตัวชุมนุมที่ด้านนอก และไม่ได้พยายามสกัดกั้นไม่ให้สมาชิกรัฐสภาเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้กล่าวหาว่า รัฐสภาที่มีพรรคฝ่ายค้านใหญ่ครองเสียงมากที่สุด กลายเป็นปิศาจทำลายรัฐธรรมนูญของประชาธิปไตยเสรี

นายยุน ยังบอกด้วยว่า ไม่ว่าจะถูกยื่นญัตติถอดถอน และถูกสอบสวน ก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด และกล่าวขอโทษอีกครั้งสำหรับการสร้างความกังวลใจแก่ประชาชน

เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีกบฏและใช้อำนาจในทางมิชอบจากการประกาศกฎอัยการศึกษา ที่บังคับใช้ได้เพียง 6 ชม. ก่อนยอมยกเลิกในเช้ามืดวันพุธ หลังรัฐสภาลงมติให้ยกเลิก นอกจากนี้เขาจะเผชิญการลงมติเห็นชอบญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งที่สองในการประชุมรัฐสภาในวันเสาร์นี้ หลังจากการลงมติครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึง 2 ใน 3 เพราะสมาชิกพรรครัฐบาลวอล์กเอาต์ โดยมีเพียง 3 คน ที่โหวตสนับสนุน

แต่ก่อนการแถลงของประธานาธิบดีในวันนี้ ฮัน ดอง ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล แสดงจุดยืนสนับสนุนการถอดถอนนายยุนเพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความสับสนในสังคม และขอให้ สส.ของพรรค ลงมติตามความเชื่อมั่นของตัวเอง

ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของเรียลเมเตอร์ที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน พบว่า ผู้ตอบคำถาม 74.8% บอกว่า ประธานาธิบดียุนควรพ้นตำแหน่งทันทีด้วยการลาออกหรือการถูกถอดถอน อีก 16.2%  สนับสนุนการลาออกด้วยความสงบเรียบร้อยตามข้อเสนอของพรรคพีพีพีก่อนหน้านี้ และ  9% ไม่มั่นใจ

เดิมพรรคพีพีพีแสดงจุดยืนว่าจะลดผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึกของนายยุน ด้วยการเสนอให้เขาออกจากตำแหน่งเร็วขึ้นด้วยความราบรื่น ต่อมาเสนอว่าควรลาออกในเดือนกุมภาพันธ์ ตามด้วยการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเมษายน หรือลาออกในเดือนมีนาคม และเลือกตั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคม