นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ตอบข้อซักถามในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซียในวันอังคาร (2 ธันวาคม) ว่า ปริมาณฝนตกช่วงวันที่ 26-30 พฤศจิกายน ยังมากกว่าปริมาณฝนตกเฉลี่ยนาน 6 เดือน พร้อมกับยกตัวอย่างว่า ในรัฐกลันตันวัดปริมาณฝนได้ 1,422 มิลลิเมตร ในช่วง 5 วัน และรัฐตรังกานู วัดได้ 1,761 มิลลิเมตร ในช่วงเดียวกัน ซึ่งทั้งสองรัฐนี้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ส่วนปริมาณฝนตกเฉลี่ยอยู่ที่ 1,349 มิลลิเมตร สูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า รัฐบาลกำลังเตรียมรับมือกับฤดูมรสุม ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคประชาสังคมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ขณะที่เมื่อวันจันทร์ สำนักงานอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า จะมีพายุฟ้าคะนองรุนแรง และฝนตกหนักในรัฐกลันตันและรัฐตรังกานู ช่วงวันที่ 3-4 ธันวาคม และลมมรสุมรุนแรงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคมต่อเนื่องจนถึง 14 ธันวาคม จะทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องในคาบสมุทรฝั่งตะวันออก
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในรัฐกลันตัน และรัฐตรังกานู ระดับน้ำลดลงเล็กน้อยแล้ว แต่ในรัฐปะหังยังแย่ลง และรัฐยะโฮร์จะยังได้รับผลกระทบ และจำนวนผู้ประสบภัยที่อพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงในรัฐปะหัง, รัฐยะโฮร์ และบางส่วนของรัฐเปรักยังคงเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้ประสบภัยที่อยู่ในศูนย์พักพิงรวม 9 รัฐ ลดลงเป็น 90,585 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังอยูที่ 6 ราย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มูลค่าความเสียหายจากน้ำท่วมสูงถึง 1,000 ล้านริงกิต และรัฐบาลจะให้ความสำคัญอันดับแรกกับการซ่อมแซมโรงเรียน โรงพยาบาล และถนน