รองประธานาธิบดีซารา ดูเตร์เต ซึ่งเป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ มาตลอดจนกระทั่งเกิดรอยร้าวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เธอกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ประเทศกำลังจะก้าวลงสู่นรก เพราะอยู่ภายใต้การนำของคนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นประธานาธิบดีอย่างไร และคนที่เป็นจอมโกหก” พร้อมกับบอกด้วยว่าเธอได้จ้างนักฆ่าเพื่อสังหารมาร์กอสด้วย เพื่อตอบความเห็นที่ขอให้เธอปลอดภัย หลังจากหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของเธอถูกควบคุมตัวเพราะไม่ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการใช้เงินอย่างไม่ถูกต้องภายในสำนักงานของรองประธานาธิบดี แต่เธอไม่ได้ระบุถึงภัยคุกคามที่มีต่อตัวเธอ
เธอบอกว่า “ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของฉัน ฉันบอกเขาไว้แล้ว หากฉันถูกฆ่าตาย ก็ฆ่ามาร์กอส, ลิซา อาราเนตา (สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง) และมาร์ติน โรมวลเดซ (ประธานรัฐสภา) ไม่ใช่เรื่องล้อเล้น”
ทำเนียบประธานาธิบดีแสดงความกังวลต่อแถลงการณ์ของดูเตร์เต โดยบอกว่า จากแถลงการณ์ที่แจ่มแจ้งของรองประธานาธิบดีที่บอกว่าได้จ้างนักฆ่าเพื่อสังหารประธานาธิบดี จึงส่งเรื่องนี้ให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดีดำเนินมาตรการอย่างเหมาะสมทันทีแล้ว และคำขู่ใด ๆ ที่มุ่งต่อชีวิตประธานาธิบดีจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งนี้เป็นการประกาศต่อสาธารณชนอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ทำเนียบประธานาธิบดีอ้างการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมว่า คำขู่ของดูเตร์เตกำลังถูกสอบสวนแล้ว และอาจนำไปสู่การตั้งข้อหา และหากมีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ ก็อาจนำไปสู่การดำเนินคดีในที่สุด
ดูเตร์เต วัย 67 ปี ยังคงดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี หลังจากลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสัญญาณสะท้อนความบาดหมางระหว่างเธอและประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ หลังจากทั้งคู่จับมือกันจนได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อปี 2565
เมื่อเดือนตุลาคม เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ความสัมพันธ์กับมาร์กอสเป็นพิษอย่างมากจนบางครั้งเคยนึกถึงภาพการตัดคอเขา และยังขู่ขุดศพอดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ พ่อของประธานาธิบดีมาร์กอส จากสุสานแห่งชาติและนำไปทิ้งทะเล
ที่ผ่านมาทั้งสองคนขัดแย้งกันในเรื่องนโยบายหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึง นโยบายต่างประเทศ และกรณีการทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดของอดีตประธานาธิบดีดูเตร์เต ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 ราย และ พันธมิตรในสภาของมาร์กอสกำลังสอบสวนทั้งเรื่องสงครามยาเสพติดดังกล่าว และข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นเกี่ยวกับการที่นางดูเตร์เตใช้เงินหลวงโดยมิชอบในช่วงเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการ
ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่นี้มีขึ้นก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปกลางเทอมในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด สมาชิกวุฒิสภาครึ่งหนึ่ง และผู้แทนระดับท้องถิ่นอีกหลายพันตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นบททดสอบความนิยมต่อประธานาธิบดีมาร์กอส และเป็นโอกาสที่เขาและพันธมิตรทางการเมืองจะสร้างฐานอำนาจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น