svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

นายกฯ ญี่ปุ่น ได้รับมติจากสภาให้อยู่ต่อ หลังสูญเสียเสียงข้างมาก

สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นลงมติเห็นชอบให้นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลต่อไป หลังรัฐบาลของเขาสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว โดยสภาต้องลงมติสองรอบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 30 ปี

คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ลาออกจากตำแหน่งในวันจันทร์ (11 พฤศจิกายน) เพื่อให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากรัฐบาลผสมของเขาสูญเสียเสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

จากนั้นสภาผู้แทนราษฎรจัดการลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เนื่องจากแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้แก่ นายอิชิบะจากพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี และนายโยชิฮิโกะ โนดะ ผู้นำพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย หรือ ซีดีพี ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด ไม่สามารถได้คะแนนเสียงเห็นชอบถึง 233 เสียง จากทั้งหมด 465 เสียง ในการลงมติรอบแรก  ทำให้ต้องจัดการรลงมติรอบที่สองเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และนายอิชิบะได้รับเสียงเห็นชอบ 221 เสียง มากกว่า นายโนดะ ที่ได้ 160 เสียง ทำให้เขาได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในที่สุด

อิชิบะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แต่ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม และพรรคแอลดีพี ของเขา กับพรรคโคเมโตะ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล สามารถชนะเลือกตั้ง แต่สูญเสียเสียข้างมากในสภาเป็นครั้งแรกนับจากปี 2555 สืบเนื่องจากกระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อปัญหาอื้อฉาวเรื่องเงินสนับสนุนทางการเมืองของพรรค และปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง

นายกฯ ญี่ปุ่น ได้รับมติจากสภาให้อยู่ต่อ หลังสูญเสียเสียงข้างมาก

และหลังได้รับมติแต่งตั้งจากสภา นายอิชิบะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมีการเปลี่ยนตัวบุคคลเพียง 3 ตำแหน่งแทนรัฐมนตรีที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และที่เหลือยังคงเป็นคนเดิม

ขณะที่รัฐบาลของเขาจะเผชิญความท้าทายอย่างมากในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ในสภา และอาจต้องตอบสนองข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอผ่านร่างกฎหมายหรืองบประมาณในสภา ทำให้มีความวิตกว่าอาจเกิดปัญหาชะงักงันทางการเมือง

แต่พรรคแอลดีพีได้เจรจาขอความช่วยเหลือจากพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน หรือ ดีพีพี ซึ่งเป็นพรรคสายกลางขนาดเล็ก โดยดีพีพีตกลงจะออกเสียงสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาลผสม และยื่นข้อเรียกร้องให้มีการลดภาษีและอุดหนุนด้านพลังงาน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าจะทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง