กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า โดรน 34 ลำ ถูกปล่อยมุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก และระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงทำลายโดรนทั้งหมดเหนือแคว้นมอสโกในช่วง 7.00 น. -10.00 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น
และผู้ว่าการแคว้นมอสโก บอกด้วยว่า โดรนถูกยิงตกในหลายพื้นที่ทั่วแคว้นมอสโก และเศษชิ้นส่วนของโดรนทำให้บ้าน 2 หลังติดไฟลุกไหม้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
นอกจากนี้การโจมตีทำให้ต้องระงับเที่ยวบินในสนามบินโดโมเดโดโว และสนามบินซูคอฟสกี แต่ยกเลิกมาตรการหลัง 10.00 น.
กระทรวงกลาโหม เปิดเผยด้วยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศยังสามารถทำลายโดรนอีก 36 ลำเหนือภูมิภาคต่าง ๆ ในภาคตะวันตกในช่วงเวลา 3 ชม. ในวันเดียวกัน
การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนต่อมอสโกครั้งนี้เป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับจากรัสเซียเริ่มเปิดฉากสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หลังจากเมื่อเดือนกันยายนยูเครนส่งโดรนโจมตีมอสโกอย่างน้อย 20 ลำ แต่รัสเซียสามารสกัดไว้ได้ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยครั้งนั้นสนามบิน 3 แห่งจากทั้งหมด 4 แห่งในมอสโก ต้องปิดนานกว่า 6 ชม. และเที่ยวบินเกือบ 50 เที่ยวต้องเปลี่ยนเส้นทาง
การโจมตีของยูเครนยังมีขึ้นหลังจากโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ให้คำมั่นยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ยูเครน ระหว่างการเยือนกรุงเคียฟของยูเครนครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ ก่อนที่เขาจะพ้นตำแหน่งในเดือนหน้า
ทั้งยูเครนและยุโรปกำลังกังวลว่า ชัยชนะของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อาจทำให้สหรัฐฯ ยุติการสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย โดยระหวางหาเสียง ทรัมป์เสนอให้ยูเครนยอมสละดินแดนบางส่วนแก่รัสเซียเพื่อบรรลุข้อตกลงยุติสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนปฏิเสธและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่เคยเสนอเรื่องนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับทรัมป์เมื่อวันพุธ โดยมีอีลอส มัสก์ มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์ร่วมสนทนาด้วย และทรัมป์ให้คำมั่นแก่เซเลนสกีว่า เขาจะยังคงสนับสนุนยูเครน แต่ไม่ให้รายละเอียด