ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเดินขบวนจากศาลาว่าการเมืองบาเลนเซียไปยังจุตรัสมานิเซอร์สในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบต่ออุทกภัยในแคว้นบาเลนเซีย ที่กระทบต่อ 80 ชุมชน และมีผู้เสียชีวิต 217 ราย หลังเกิดฝนตกหนักเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยผู้ประท้วงกล่าวโทษว่าทางการแคว้นบาเลนเซียเตือนภัยล่าช้า และดำเนินการช่วยเหลือล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ
ผู้ประท้วงเรียกร้องให้คาร์ลอส เมซอน ผู้ว่าการแคว้นบาเลนเซีย ลาออก และตะโกนคำว่า “ฆาตกร” รวมถึงชูป้ายที่มีข้อความว่า “เรามือเปื้อนโคลน คุณมือเปื้อนเลือด” นอกจากนี้พวกเขายังใช้มือเปื้อนโคลนทาบลงบนกำแพงของสำนักงานผู้ว่าการแคว้นบาเลนเซียด้วยเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความโกรธแค้น
ขณะที่มีรายงานผู้ประท้วงบางส่วนสร้างความเสียหายแก่อาคารหน่วยงานท้องถิ่น และตำรวจใช้กระบองและโล่ผลักดันฝูงชนที่โกรธแค้นและขว้างปาเก้าอี้และสิ่งของต่าง ๆ ใส่ตำรวจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกษัตริย์และพระราชินีของสเปนถูกปาด้วยโคลนและสิ่งของจากผู้ประท้วงที่โกรธแค้นขณะเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย และนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ถูกขว้างปาสิ่งของใส่ด้วยเช่นกัน
ภัยพิบัติในแคว้นบาเลเซีย ที่เผชิญฝนตกหนักเทียบเท่าฝนทั้งปีภายใน 8 ชม. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน สร้างความเสียหายในวงกว้าง และชาวบ้านโกรธแค้นว่า ได้รับการเตือนภัยล่าช้า โดยบางคนบอกว่า ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยตอนที่พวกเขาต้องหนีน้ำขึ้นไปบนหลังคาบ้านแล้ว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสเปน ออกคำเตือนพายุที่จะส่งผลกระทบต่อแคว้นบาเลนเซียนับจากวันที่ 25 ตุลาคม แต่ทางการแคว้นบาเลนเซียไม่ได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือจนกระทั่งน้ำท่วมผ่านไปหลายชั่วโมง ผู้ว่าการแค้วน อ้างว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับคำเตือนอย่างเพียงพอจากรัฐบาลกลาง และภัยพิบัติครั้งสร้างความหายนะอย่างที่ไม่เคยปราฏมาก่อน
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า น้ำท่วมฉับพลันในสเปนครั้งนี้ที่เป็นอุทกภัยเลวร้ายที่สุดในยุโรปในรอบ 50 ปี เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ผิดปกติในทะเลเมดิเตอเรเนียน ที่เรียกว่าปรากฏการณ์ดานา“Dana” และเกิดที่สเปนเพียงแห่งเดียวในโลก โดยเกิดจากมวลอากาศเย็นปะทะกับอากาศอบอุ่นและความชื้น