เหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงสรุปข่าวรายวันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน ว่าจีนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมา ตราบเท่าที่เป็นการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมกัน และจีนหวังว่าแคนาดาจะดำเนินการเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน ส่วน คลิปวิดีโอที่ถูกพาดพิงเป็นเพียงการสนทนาสั้น ๆ ของผู้นำทั้งสอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก และเธอไม่คิดว่ามันควรจะถูกตีความว่าประธานาธิบดีสีกำลังตำหนิหรือกล่าวหาใคร
คลิปวิดีโอความยาว 1 นาที ที่เผยแพร่โดยสื่อของแคนาดาเมื่อวันพุธ (16 พฤศจิกายน) มีเสียงล่ามที่บอกกับทรูโดว่า
"ทุกเรื่องที่เราหารือกันรั่วออกสื่อ มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม"
ขณะที่ประธานาธิบดีสี ซึ่งแม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่ก็ดูออกว่าไม่ค่อยสบอารมณ์ตอนที่พูดเป็นภาษาจีนกลางว่า
"นั่นไม่ใช่วิธีที่ควรปฏิบัติในการหารือกันในระดับนี้ ถ้ามีความจริงใจต่อกัน เราสามารถสื่อสารกันได้ด้วยความเคารพ มิฉะนั้น อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้"
ผู้นำจีนทำท่าว่าจะเดินผ่านหน้าทรูโด แต่ทรูโดได้ชิงพูดว่า
"ถึงแม้เราจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่เราก็ควรทำงานร่วมกัน ที่แคนาดาเราเชื่อในการพูดคุยอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา และนั่นคือสิ่งที่เราจะยึดถือต่อไป เราจะหาทางทำงานร่วมกันต่อไป แต่มีบางเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกันและเราจะต้อง..."
ปรากฎว่าผู้นำจีนพูดสวนขึ้นมาเพื่อตัดบทการสนทนาว่า
"ถ้าอยางนั้นก็ควรกำหนดเงื่อนไขกันก่อน"
จากนั้นก็ยื่นไปจับมือกับทรูโด และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง
เรื่องมีต้นตอมาจากการหารือนอกรอบของการประชุม G20 และความไม่พอใจของผู้นำจีนน่าจะมาจากการที่สื่อแคนาดารายงานว่า ทรูโดได้ยกประเด็นที่เขาวิตกกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องสายลับจีนและการที่จีนเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งของแคนาดา ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำทั้ง 2 ในรอบ 3 ปี
ในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีโฆษกระทรวงต่างประเทศของจีนบอกด้วยว่า เธอต้องการย้ำว่าจีนไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น แต่ไม่ได้บอกว่าการที่ทรูโดกล่าวหาจีนว่าแทรกแซงเมื่อวันอังคาร (15 พฤศจิกายน) เป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการคุยกันเมื่อวันพุธหรือไม่ เพียงแต่บอกว่าการที่ประธานาธิบดีสีบอกกับทรูโดว่า "มิฉะนั้นแล้วอาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้" ไม่ใช่การขู่ และผู้นำทั้งสองก็ยังพูดคุยกันปกติและย้ำในจุดยืนของการเคารพซึ่งกันและกัน การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่ปัญหาของจีน แต่หวังว่ามันจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความเสมอภาคและความเคารพซึ่งกันและกัน แทนที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเหยียดหยาม