นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565นี้ มีประชาชนจดทะเบียนใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จำนวน 14,816 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ถึง 156.86% และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้น สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
รวมทั้งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ จึงมีพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565 ออกมา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว โดยจะลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจดทะเบียนระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ลง 80%
โดยรถเก๋งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจะจัดเก็บภาษีประจำปีอยู่ที่ 1,600 บาท ลดเหลือ 320 บาท / รถตู้ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจัดเก็บภาษีประจำปีที่ 800 บาท เหลือ 160 บาท / และรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 50 บาท จะเหลือ 10 บาท โดยการลดจัดเก็บภาษีครั้งนี้จะลดเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่รถจดทะเบียน