19 เมษายน 2568 ความคืบหน้า กรณี นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช ขับรถ BMW เบียดรถกระบะลุงกับป้า เป็นเหตุให้ลุงได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคืนที่ผ่านมา "พีช สมิทธิพัฒน์" ลูกนายกเบี้ยว ได้ย่องเงียบมาที่ สภ.ลำลูกกา เพื่อเข้ารับทราบ 4 ข้อหา
โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตัวแทนของ นายสมิทธิพัฒน์ ได้นำรถ BMW คันเกิดเหตุ มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อนำไปตรวจสอบก่อนจะยึดเป็นของกลางในคดี
ขณะที่วันนี้เวลา 15.00 น. ทางทีมงานกันจอมพลัง พร้อมลูกของผู้เสียหาย จะเดินทางมาติดจามความคืบหน้าของคดี และรอพบนายพีช หากต้องการมาขอโทษ ตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวานนี้
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.50 น. ตำรวจทางหลวงได้นำรถกระบะของลุง มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป โดยบริเวณด้านหน้าซ้ายของรถมีรอยครูดสีขาวของรถ BMW ติดอยู่ พร้อมกันนี้พบว่า บริเวณยางรถด้านหน้าขวาที่เสียหลักไปกระแทกกับแบริเออร์ ได้ฉีกขาดและบิดออก โดยจุดที่หนักที่สุดคือบริเวณกันชนหน้าและบังโคลนหน้าขวาที่มีสภาพเละ
โดยหลังจากนั้นได้เกิดกระแสโซเชียล มีการนำภาพของรถทั้ง 2 คัน ไปเปรียบเทียบกันว่า รถบีเอ็มถูกจอดไว้ในที่เก็บของกลาง ที่มีหลังคามุง อยู่ในรั้วมิดชิด ขณะเดียวกัน รถของลุงกับป้า มาจากตำรวจทางหลวงเพื่อนำมาตรวจสอบ แต่ถูกจอดเอาไว้ข้างนอกกลางแดด ทำให้เกิดประเด็นข้อถกเถียงกันในโลกโซเชียลว่า มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่
ร.ต.อ.สมชาย รอดเล็ก รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ลำลูกกา ชี้แจงว่า ที่ตนได้นำรถบีเอ็มมาจอดในบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่เก็บสำหรับรถของกลางในคดีอาญา ซึ่งรถบีเอ็มก็เป็นของกลางในคดีอาญา จึงจำเป็นต้องนำมาเก็บไว้ โดยเมื่อเช้ารถบีเอ็มมาก่อน ประกอบกับวันนี้เป็นวันหยุด จึงนำรถมาเก็บ และตนเองก็ไม่รู้ว่า รถคันนี้มีกุญแจกี่ชุด ถ้าหากตนจอดรถไว้ข้างนอก แล้วตกดึก รถหายขึ้นมา ตำรวจก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
ส่วนรถของคุณลุงคุณป้า ยืมมาจากตำรวจทางหลวง เพื่อนำมาเทียบรอยชนและนำมาประกอบสำนวนในคดี เมื่อเทียบเสร็จแล้วก็ต้องส่งมอบให้กับเจ้าของรถเพื่อนำรถไปซ่อม จึงไม่สามารถนำมาเก็บในห้องเก็บของกลางได้ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาเพื่อตรวจสอบรถคันเกิดเหตุทั้ง 2 คัน
ต่อมาเวลา 15.10 น. นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช และนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ เฮียเบี้ยว เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา โดย นายพีช มาพร้อมกับพวงมาลัย 2 พวง ก่อนจะระบุสั้นๆ ว่า ได้มีการประสานญาติมาเรียบร้อยแล้ว วันนี้ตั้งใจที่จะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย
เมื่อถามว่า ยังเจ็บหัวอยู่หรือไม่แต่พี่ตอบว่ายังเจ็บอยู่
ซึ่งตลอดทางนายกเบี้ยว พยายามกันสื่อมวลชน และพยายามบอกว่า “อย่าเข้ามาเบียด” “วันนี้พอแล้วครับ” “ขอร้อง” จนถึงในระดับหนึ่ง นายกเบี้ยวได้มีการขึ้นเสียงใส่สื่อมวลชนเสียงดังว่า “อย่าเบียด” (ตะคอกใส่) ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินทางเข้าไปพบ พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา