ม้วนเดียวจบ สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึก สตง.ถล่ม สาเหตุ – ผลกระทบ
ม้วนเดียวจบ สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึก สตง.ถล่ม สาเหตุ - ผลกระทบ สังคมคาใจ “วัวหายหมดคอก” ยังไร้เงาคนรับผิดชอบ
จากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศพม่า เมื่อบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2568 แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพฯ ที่แม้อยู่ห่างไกลกันถึง 1,300 กิโลเมตร แต่แรงเขย่าสร้างความเสียหายมหาศาล โดยเฉพาะเหตุการณ์ ตึก สตง.ถล่ม
ข่าวข้น คนข่าว เนชั่น ทีวี สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว สาเหตุ และผลกระทบ ของตึกถล่ม เอาไว้ดังนี้
28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวพม่า แรงสั่นสะเทือนกระทบถึงภาคเหนือ ภาคกลางของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่เกิดความเสียหายอย่างหนัก ตึก สตง.ถล่ม ซึ่งเป็นตึกที่กำลังก่อสร้าง ย่านจตุจักร
1.การค้นหาสาเหตุของตึกถล่ม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุของตึกถล่ม นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เดิมคิดว่าทำได้รวดเร็ว แต่ผ่าน 1 สัปดาห์ ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากการค้นหาสาเหตุ โดยเฉพาะในทางวิศวกรรม ซับซ้อนกว่าที่คิด แม้แต่สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ก็ตั้งไว้ 4 ประเด็น แต่ไม่กล้าสรุปฟันธง
แม้จะพบการใช้ “เหล็กเส้น” ไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็สรุปไม่ได้ว่าเป็นสาเหตุการถล่ม
8 เมษายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงกรอบเวลาใหม่ คือ 90 วัน
เกี่ยวกับประเด็นนี้ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย บอกว่า “ต้องใช้ Forensic Engineering หรือ นิติวิศวกรรมคล้ายๆ นิติวิทยาศาสตร์ ป้องกันการสรุปผิด ถอดบทเรียนผิด เพราะมิฉะนั้นจะวางมาตรการป้องกันในอนาคตไม่ได้
แต่ความรู้สึกสังคมไทยและผู้ติดตามข่าวสาร คือ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง มีปัญหาความไม่โปร่งใสมาตั้งแต่กระบวนการจัดตั้งบริษัท มีแนวโน้มใช้ “นอมินี” เลี่ยงกฎหมายไทย และอาจมีประเด็นฮั้วประมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กำลังสอบอยู่ด้วย
2.สอบ “นอมินีทุนจีน”
ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ อย่างรวดเร็ว มีแถลงข่าวใหญ่ มีการเปิดชาร์ตและข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 แต่ยังไม่ออกหมายจับใคร ยังไม่แจ้งข้อหาใคร รวมทั้ง 3 คนไทยที่สงสัยเป็น “นอมินี” ยังตามตัวไม่ได้
อย่างไรก็ดี มีการเปิดข้อมูลคดีตัวอย่าง ดีเอสไอฟ้องร้อง “นอมินี” 23 ราย ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ตั้งบริษัทนอมินีต้องสงสัยกว่า 60 บริษัท ความเสียหายของรัฐ เฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ควรจะได้รับกว่า 1 พันล้านบาท
ศาลพิพากษาเมื่อปลายปี 2567 จำคุก 10 ปี แต่ลดโทษ เหลือจำคุก 5 ปี รอลงอาญา 2 ปี(ไม่ถูกจำคุกจริง) ปรับ 200,000 บาทต่อราย
ตรงนี้หลายฝ่ายเป็นกังวล ถึงบทลงโทษที่จะทำให้คนกระทำผิดหลาบจำและไม่กล้างกระทำความผิดอีก
3. ถอนสิทธิการลงทุน BOI บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล (จำกัด) บริษัทเหล็กทุนจีน ที่ใช้ในการก่อสร้างตึก สตง.
4 เมษายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องการลงนามถอน BOI บริษัท ซิน เคอ หยวน
โดยก่อนหน้านี้ มีความพยายามเพิกถอน BOI บริษัทเหล็กแห่งนี้ จากเหตุเพลิงไหม้ และตรวจพบผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน มอก. กระทั่งบริษัทถูกสั่งปิดชั่วคราว แต่จนแล้วจนรอดในครั้งนั้นก็ยังไม่ถูกถอน BOI
จากเดิมบริษัท ซิน เคอ หยวน นัดแถลงชี้แจงในวันที่ 9 เมษายน 2568 กระทั่งต่อมาทราบว่า กระทรวงอุตสาหกรรม จะแถลงข่าวความคืบหน้า ในวันที่ 10 เมษายน 2568 ทำให้ บริษัท ซิน เคอ หยวน เลื่อนการแถลงข่าวออกไป โดยยังไม่มีกำหนด
4. “สตง. - คตง.” ยังไม่แถลงแสดงความรับผิดชอบ หรือชี้แจงรายละเอียด
ประชาชนยังรอการแสดงความรับผิดชอบและการชี้แจง จาก สตง. และ คตง. หน่วยงานเจ้าของอาคารที่ถล่ม รวมทั้งเรียกร้องให้เปิดสัญญา
มีการตั้งคำถามถึง “คตง.” ยุคเปลี่ยนผ่าน ประธานบอร์ดเป็นอดีตทหาร เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหรือไม่ รวมทั้ง ผู้ว่าฯ สตง. มีภาพความใกล้ชิดกับ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ทำให้การตรวจสอบมีความล่าช้าหรือเปล่า
บทสรุป
ใครจะต้องรับผิดชอบบ้างกับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งใหญ่ ที่ปรากฏออกไปทั่วโลก อย่าปล่อยให้เป็นไฟไหม้ฟาง หรือ วัวหายหมดคอก ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้
