svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

ย้อนวีรกรรม “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” ดาราสาว เวลาผ่านไปเกือบสิบปี ยังก่อคดีแอบอ้างหลอกลวง แต่คราวนี้เล่นใหญ่กว่าเดิม

7 เมษายน 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนของวัน กรณี “คะน้า” น.ส.ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ นางแบบ ดาราสาวช่องมากสี ออกมาเปิดหน้าแฉ กรณีที่ถูก หนุ่มรายหนึ่ง ที่ชื่อว่า นายฮอท (ชื่อและนามสกุลสมมติ) ซึ่งแอบอ้างว่า เป็นชายหนุ่มโปรไฟล์ดี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และสนิทกับคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง มาหลอกคบหา และตบทรัพย์ ถึงขั้นเกือบแต่งงานด้วย กระทั่งทราบว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวมีโลกสองใบ คือมีภรรยาอยู่แล้ว 
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

สิ่งที่ “คะน้า” เปิดเผยหลังตกเป็นกระแสข่าวในโซเชียล โดยยอมรับว่า รู้จักกับนายฮอท โดยเจอกันผ่านแอปหาคู่ และคบหาดูใจกันไม่ถึงเดือน ซึ่งนายฮอทดูน่าเชื่อถือมาก ตามมาด้วยขอแต่งงาน พออ้างเป็นสมรสพระราชทาน จึงไม่กล้าขัด มีกำหนดการต่างๆ ชัดเจน ทั้งนี้ฝ่ายชายมีการให้ทอง-แหวนเพชร ไว้ อ้างเป็นของหมั้น เมื่อเกิดเรื่องจะเอาของไปคืนพบทองลอก 
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

เหตุทำให้ "คะน้า" หลงเชื่อคือในสิ่งที่แอบอ้างคือ ชายคนดังกล่าว มีขบวนรถในการเดินทาง คนติดตามสวมชุดข้าราชการ ทำทีสนิทสนมกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน บางทีแต่งตัวติดยศ ฝ่ายชายอ้างมีตำแหน่ง ที่ปรึกษาของนายกฯ
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

 

ชนวนที่ทำให้ "คะน้า" เริ่มจับโป๊ะ ได้มาจากฝ่ายชายอ้างว่าแฟนเก่าคะน้า เอี่ยวกับธุรกิจสีเทาฟอกกเงิน เสี่ยงถูกอายัดทรัพย์ เพราะคะน้าร่วมธุรกิจ อ้างว่ากำลังให้นายกฯช่วย ให้โอนค่าแชมเปญ 9 หมื่นไปขอบคุณ

ก่อนที่เรื่องจะแดง เพราะมีผู้หวังดีติดต่อมาบอกว่า ฝ่ายชายมีโลก 2 ใบ ให้ระมัดระวังโดยเฉพาะการทำร้ายร่างกาย ทำให้หลังเกิดเรื่องทั้งหมด คะน้า ไม่ได้ติดต่อฝ่ายชายไปอีกเลย รวมถึงกังวลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน เพราะชายคนนี้รู้เรื่องในชีวิตเยอะมาก 

ซึ่งภายหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น “คะน้า” ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก “กัน จอมพลัง” ก่อนที่จะปรากฏภาพของทั้งคู่เดินทางไปแฉเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรายการดัง ก่อนเข้าแจ้งความที่ตำรวจไซเบอร์ 

โดย กัน จอมพลัง ให้ข้อมูลว่า ชายคนนี้เคยมีคดีใหญ่ด้วย เจตนาหวังต่อทรัพย์ โดยแอบอ้างผู้หลักผู้ใหญ่ 
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม







 

ขณะที่ด้านหนึ่งเดินสายแฉและเอาผิด ฝั่ง "นายฮอท" ก็มีความเคลื่อนไหว เมื่อปรากฎข่าว ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล อายุ 32 ปี ปีนตึก 3 ชั้นพร้อมขู่กระโดดด้วยความเครียด ตะโกนอยู่ริมระเบียง จับใจความได้ว่า "ถูกแบล็กเมล์ หากตายไป จะจองเวรจองกรรมทุกชาติไป" 
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายฮอท ที่ถูก คะน้า แฉว่าเป็นไฮโซเก๊ หลอกขอแต่งงาน อ้างเบื้องสูง และมีโลกสองใบ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที โดยติดต่อภรรยา และครอบครัว มาช่วยเกลี้ยกล่อมพาลงสู่พื้น และคุมตัวมาสงบอารมณ์ที่ สน.โคกคราม

เมื่อสอบถามข้อเท็จจริง นายฮอท ตอบเพียงแค่ว่า "ที่ดาราสาวพูดนั้นไม่เป็นความจริง ตนถูกแบล็กเมล์เรื่องเงิน และปฏิเสธว่า ไม่รู้จักนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลสำคัญใดๆ และเวลามีอะไรจะปรึกษาทนายความส่วนตัวตลอดเวลา"
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม

ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม



ย้อนวีรกรรม ปูมหลังไฮโซเก๊ ลวง “คะน้า” ดาราสาว เล่นใหญ่กว่าเดิม
 

ทั้งนี้เมื่อย้อนไปดูประเด็นที่ "กัน จอมพลัง" กล่าวถึงประวัติของนายฮอท ที่ปัจจุบันใช้ชื่อว่า นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล แต่ใบหน้าของนายฮอทนั้น กลับเหมือนผู้ต้องหาในคดีที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2559 คือ คดีการจับกุมรอง ปธ.เครือข่ายยุวทัศน์กรุงเทพฯ เปลี่ยนนามสกุลดัง "สิงหเสนี" อ้างรู้จักข้าราชการผู้ใหญ่ตุ๋นซื้ออสังหาฯ มูลค่า 100 ล้าน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.59

โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. (ในขณะนั้น)  มอบหมายให้ ตำรวจ กก.3 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุม นายธนายุทธ สิงหเสนี หรือ พึ่งพิบูลย์ อายุ 24 ปี รองประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร อยู่ที่บ้านถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลัวตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.118//2559 ลงวันที่ 18 พ.ค. 2559 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ จับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเดอะแจส รามอินทรา ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

พฤติการณ์การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีผู้เสียหายซึ่งประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เข้าร้องทุกข์ว่า ถูกนายธนายุทธ ซึ่งอ้างตัวว่ามีฐานะดี และรู้จักกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน หลอกลวงว่า มีความต้องการจะซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายร้อยล้านบาท แต่หลังจากติดต่อกันระยะหนึ่งจนผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อ ก็จะขอให้ทางผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าใช้จ่าย หรือดำเนินการต่างๆ เพื่อแลกกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเริ่มเอะใจ ก่อนประสานขอให้ทางตำรวจ บก.ป.ช่วยตรวจสอบประวัติ

กระทั่งพบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะนี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา และมีการเรียกร้องขอทรัพย์สินมีค่าจากผู้เสียหายเป็นแหวนเพชร 1 กะรัต 1 วง มูลค่า 422,000 บาท แต่กลับไม่มีการติดต่อทำธุรกิจต่อกัน จนผู้เสียหายรายดังกล่าวได้แจ้งความดำเนินคดี และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว ทางชุดสืบสวน กก.3 บก.ป.จึงไปติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ดังกล่าว

ซึ่งจากแนวทางสืบสวนทราบว่า นายธนายุทธ ซึ่งเป็นรองประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพฯ หรือผู้นำเยาวชนที่มีจิตอาสาในการพัฒนาสังคมและส่งเสริมด้านวัฒนธรรมของเยาวชนในนามกระทรวงวัฒนธรรม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะไปขอเปลี่ยนนามสกุลเป็น "สิงหเสนี" ซึ่งเป็นนามสกุลเดิมทางบรรพบุรุษทางฝั่งของมารดา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะมีพฤติกรรมแอบอ้างว่า รู้จักข้าราชการระดับสูง หลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
ย้อนคดี “ไฮโซเก๊” ลวง “คะน้า” เกือบ 10 ปีผ่านไป เล่นใหญ่กว่าเดิม