DSI รับเป็นคดีพิเศษ ลุยสอบ "นอมินิ" บริษัทจีนสร้างตึก สตง.ถล่ม
DSI รับคดีตึก สตง.ถล่มเป็นคดีพิเศษ พบเข้าข่ายเป็น "นอมินี" เตรียมขยายผลฮั้วประมูล พร้อมตรวจสอบย้อนหลังงานที่ชนะประมูล 10 กว่างาน ปูดวิศวกรต่างชาติ ถือวีซ่านักศึกษา
2 เมษายน 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ( ยธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับคดีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นคดีพิเศษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้อำนาจของอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นความผิดแนบท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษในการพิจารณา และจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบได้ว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมการเป็น "นอมินี" ซึ่งปกติบริษัทต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะต้องมีการแบ่งสัดส่วน ผลประโยชน์ให้คนไทย 51% และเป็นต่างชาติ 49%
ขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหลักฐานมากพอที่จะสามารถเชื่อได้ว่าบริษัทแห่งนี้เข้าข่ายการเป็น "นอมินี" ประกอบกับมีความเสียหายมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ถือได้ว่าเข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ
และนอกจากความผิดที่มีการรับเป็น "นอมินี" แล้ว จะมีการขยายผลในคดี เรื่องสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพของ มอก. /การฮั้วประมูล/ และดูคุณภาพเนื้องาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่ทำให้ตึกถล่มลงมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการเชิญหน่วยงานภายนอก เช่น สรรพากร กระทรวงอุตสาหกรรม มาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
"ไม่ได้รู้สึกถึงความกังวล ในการสอบสวนคดีนี้ถึงแม้ว่า บริษัทดังกล่าวจะเป็นบริษัทวิสาหกิจของประเทศจีน ยืนยันว่าจะดำเนินการให้โปร่งใสมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นใครก็ตาม" พันตำรวจเอกทวี กล่าว
พร้อมกันนี้ จะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงโครงการอีก 10 โครงการ ได้รับประมูลไปจากรัฐ รวมไปถึงรายละเอียดเรื่องวิศวกรที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ใช้วีซ่านักศึกษาเข้ามาทำงานด้วย
นอกจากบริษัทดัวกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะทำการตรวจสอบบริษัทอื่นๆ ที่มีลักษณะการร่วมทุนของต่างชาติทั่วประเทศว่ามีบริษัทใดบ้างที่มีพฤติกรรมการรับเป็น "นอมินี" เพื่อที่จะขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
