27 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. , พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย, พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา , พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ และ พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จัด ประกอบด้วย บริษัทบัญชีแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และ บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังทราบว่ามีการก่อตั้งเป็นสถานที่รับจดทะเบียนบริษัท “นอมินี” ให้กับนายทุนต่างชาติ
สำหรับการเข้าตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจากปฏิบัติการ “CIB Game on” รื้อระบบสยบจีนดำ จับกุม นายลี ชาวจีน ผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ที่ก่อเหตุยักยอกทรัพย์ชาวจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาท ที่หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย โดยเปิดบริษัทนอมินีขึ้นมาเพื่อปกปิดอำพราง ก่อนมาร่วมกับพวกตั้งขบวนการรับทำบัตรประชาชน หรือ "วีซ่าเถื่อน" เพื่อหลอกหลวงเงินจากเหยื่อชาวจีนด้วยกัน โดยการอ้างว่าสามารถทำวีซ่า และบัตรประชาชนให้ได้
โดยหลังการจับกุมตัวนายลี ได้เมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนขยายผลต่อเนื่องเรื่อยมา จนไปพบว่า บริษัท นอมินี ของนายลี ได้ว่าจ้างบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท และ คอยทำเอกสารส่งงบการเงินให้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของ บริษัทดังกล่าว ยังพบว่ามีการนำชื่อของกรรมการ และบุคคลในครอบครัว ไปถือหุ้นในบริษัทชาวจีนอีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด จนทราบว่า บริษัทบัญชีดังกล่าวมี น.ส.เหยียน เจ้า หรือ "วีนัส" สัญชาติจีน เป็นนายทุนเจ้าของบริษัท จะคอยบริหารงานจากประเทศจีน และหาลูกค้าชาวจีน ที่ต้องการเปิดบริษัทในประเทศไทย เมื่อมีลูกค้าชาวจีนต้องการจดทะเบียนบริษัท จะสั่งการผ่าน แอปพลิเคชัน WeChat โดยนำชื่อพนักงานคนไทย และบุคคลใกล้ชิด มาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นในสัดส่วนของคนไทยแทนคนต่างด้าว เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบ
เมื่อจดตั้งบริษัท "นอมินี" ขึ้นมาแล้ว กลุ่มคนจีนเหล่านี้ก็จะนำไปใช้ ประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ สร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก เมื่อสืบทราบแน่ชัดถึงพฤติกรรมการกระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จนนำมาสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้งคนไทยและชาวจีน 72 ราย
รวมถึงดำเนินคดีกับบริษัท "นอมินี" ในเครือข่าย ซึ่งจดทะเบียนที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน อีก 15 บริษัท หลังตรวจสอบสถานที่ตั้งพบว่า เป็นคูหาร้างภายในตลาดแห่งหนึ่ง ย่านบางเสาธง โดยผู้ดูแลโครงการให้ข้อมูลว่าคูหาร้างดังกล่าว ไม่มีผู้ใดมาเช่าเพื่อดำเนินกิจการ หรือตั้งเป็นสำนักงานบริษัทแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้ น่าจะเป็นบริษัทนอมินี ที่จดตั้งขึ้นมาเพื่อบังหน้า ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลตรวจสอบเพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป