รู้ตัวแล้วผู้มีพระคุณ "จ่าเอ็ม" เป็นใคร-อยู่ที่ไหน

คดีการสังหาร "นายลิม กิมยา" อดีต สส.ฝ่ายค้าน กัมพูชาจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น แม้สามารถจับกุมมือยิง คือ "จ่าเอ็ม กองเรือ" นายเอกลักษณ์ แพน้อย อายุ 41 ปี ได้แล้ว แต่อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่จะช่วยให้คดีนี้มีความชัดเจนขึ้น คือ "คนชี้เป้า" ล่าสุด ตำรวจเตรียมคุมตัวจ่าเอ็ม ไปฝากขังที่ ศาลอาญาแล้ว ขบวนคุมตัวก็ใช้อรินทราช 26 คุมเข้ม เช้าวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา

13 มกราคม 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) บอกถึงความคืบหน้า คดี "จ่าเอ็ม" ว่า ประเด็นเรื่องของผู้มีพระคุณ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจพิสูจน์ข้อมูลทางโทรศัพท์ที่ส่งให้ บก.ปอท.ทำการตรวจพิสูจน์ 

หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อมูลมา กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย ชุดของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดสืบสวนก็จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้าง จึงจะทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งพบว่า เบื้องต้น ผู้มีพระคุณ ตัวอยู่ต่างประเทศ ส่วนเป็นคนไทยหรือ กัมพูชานั้นอยู่ระหว่างรอข้อมูลก่อน

ส่วนปมสังหาร ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะต้องรอข้อมูลทางโทรศัพท์เช่นกัน เพราะผู้ต้องหาเป็นเพียงแค่ผู้ถูกใช้ ยังไม่รู้ข้อมูลอะไรมาก 

มีบุญคุณกันแค่ไหนถึงทำให้ตัดสินใจรับงานนั้น 

พล.ต.ท.สยาม บอกว่า คงมีบุญคุณกับเขามาก เขาถึงยอมดำเนินการ ส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่ ยังไม่ทราบ รวมถึงยังไม่ทราบว่าเป็นนักการเมืองหรือไม่ด้วย แต่ตัวผู้ต้องหา บอกว่าต้องตอบแทนบุญคุณ
   

ขณะที่ นายคิม สะลินพิส ชาวกัมพูชา ซึ่งตัวชี้เป้านั้น ตำรวจกองการต่างประเทศ ออกหมายแดงแล้ว และทางการกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือดี อย่างในการประสานงานของจ่าเอ็ม ก็ได้นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้รวดเร็วภายในไม่กี่วัน และมั่นใจว่าจะเอาตัวมาดำเนินคดีได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน
   
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มือชี้เป้า เป็นน้องชายของนักการเมืองกัมพูชานั้น ขณะนี้ ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน รวมถึงขอเวลาตรวจสอบข้อมูลของผู้เกี่ยวข้องทุกคน

ส่วนจะมีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 3 คนหรือไม่ นอกจาก มือยิง คนชี้เป้า และผู้มีพระคุณนั้น 

พล.ต.ท.สยาม ตอบว่า อยู่ระหว่างขยายผล ให้ได้ข้อมูลที่ส่งไปตรวจพิสูจน์ก่อน

กรณีมีข้อมูลของบุคคลที่ชื่อสมหวัง ที่พบว่ามีการโอนเงินให้กับจ่าเอ็มนั้น ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลด้านการเงิน และข้อมูลทางโทรศัพท์ 

บุคคลที่ชื่อสมหวัง อยู่ในประเทศไทยหรือกัมพูชานั้น 

พล.ต.ท.สยาม ตอบว่า เบื้องต้นที่มากระทำความผิดอยู่ในประเทศไทย ส่วนรายละเอียดขอเวลาตรวจสอบข้อมูลก่อนคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำด้วย

ส่วนจะเรียกใครบ้าง ขึ้นอยู่กับผลตรวจพิสูจน์ข้อมูลทางโทรศัพท์และเส้นทางการเงิน ก็ตะเข้ญมาสอบปากคำ หรือถ้าพบว่ามีส่วนร่วมก็จะออกหมายจับผู่ร่วมกระทำความผิด โดยได้เร่วดำเนินการให้เร็วที่สุด

เหตุผลที่ จ่าเอ็ม ผู้ต้องหา ไม่ต้องการพบใครนั้น เป็นเพราะ ผู้ต้องหามีเครียดอยากอยู่เงียบๆ และไม่อยากพบแม่ เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจ