ระทึก! คนร้าย ซุกบอมบ์ใส่ จยย. วางบึ้มกลางเมืองปัตตานี จนท.บาดเจ็บนับ 10 นาย

13 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 08.20 น. ศูนย์วิทยุ 191 จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิด ภายในซอยTk.ปาร์ค ถนนปัตตานีภิรมย์ ข้าง สภ.เมืองปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจสอบ รวมถึงป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ เนื่องจากอาจถูกคนร้ายแอบซุกซ่อนระเบิดลูกที่ 2 เพื่อลอบสังหารเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ( อส. ) จนท.ตำรวจ ชาวต่างชาติ ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 ราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้นำตัวผู้บาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอาการเป็นการด่วน ทราบชื่อในเบื้องต้นคือ 

1. ม.ญ.บันเฟิง มาลมิ่ง (ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาขวา) 
2. อส.อ.ภานุวัตน์ ใหมรักษา (ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาชา)
3. อส.เจ๊ะโต๊ะ มามะ (ถูกสะเก็ดระเบิดบาดแผลบริเวณก้นซ้าย) 
4. ม.ญ.มะต่อเปด แวกูโน (แน่นหน้าอก)  
5. ม.ญ.บุญเลิศ แสงสุวรรณ (แน่นหน้าอก)
6. อส.มะตอเฮ สาและ (แน่นหน้าอก)
7. ส.ต.ท.พงศกร เขื่อนสุวรรณ (แน่นหน้าอก)
8. ส.ต.ต.ศักดิ์ชัย เอียดสงคราม (หูอื้อ)
9. ส.ต.ต.ธัญธร อะล้มสา(แน่นหน้าอก)
10. Mr.Erfan Ezzamie Bin Erwannizam (ประชาชนสัญชาติมาเลเชีย อาการแน่นหน้าอก) 

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี หรือหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งเก็บหลักฐานต่างๆ ในบริเวณจุดเกิดเหตุ 

เบื้องต้นเหตุระเบิดในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่อง โดยมีการจุดชนวนด้วยการตั้งเวลา ซึ่งคนร้ายได้นำระเบิดไปติดตั้งและซุกซ่อนเอาไว้ในรถจักรยานยนต์ และได้ขับขี่เข้ามาภายในซอยทีเค.ปาร์ค ซึ่งอยู่ด้านข้างของโรงพัก กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ จึงได้เกิดการระเบิดขึ้น และทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส. ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว 

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับการเปิดเผยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนายหนึ่ง ซึ่งได้ระบุว่า ปัจจุบันคนร้ายมีการพัฒนาในการติดตั้งวงจรระเบิด ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเท่าที่พบจะเป็นวงจรแบบ 3 ระบบ คือ สามารถตั้งเวลาได้ ,กดระเบิดด้วยวิทยุได้ ,กดระเบิดด้วยโทรศัพท์ โดยระบบที่พบทำให้การเก็บกู้ระเบิดเป็นไปด้วยความยากลำบากมากยิ่งขึ้น 

ดังนั้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้ระเบิด จะต้องมีการตัดสัญญาณในทุกระบบ ทั้งสัญญาณมือถือ สัญญาณวิทยุ เพื่อป้องกันคนร้ายที่ก่อเหตุแฝงตัวมาปะปนกับชาวบ้าน หรือประชาชน และแอบกดระเบิด ในขณะเจ้าที่ฯ กำลังปฎิบัติงาน 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในพื้นที่ โดยขณะนี้หน่วยงานความมั่งคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป