29 ธันวาคม 2567 แม่ใจสลาย ลูกสาวถูกขืนใจโดยคนขับรถตู้โดยสาร ถ่ายรูปแบล็กเมล แจ้งตำรวจคดีล่าช้า แถมคนทำโพสต์ยอมรับเยาะเย้ย มีพรรคพวก เข้ามาซ้ำเติมผู้เสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่ก่อเหตุกับผู้โดยสาร
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี อยู่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่า น.ส.บี (นามสมมติ) ลูกสาววัย 19 ปี ได้ถูก นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี คนขับรถตู้โดยสาร มีภูมิลำเนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขืนใจในบ้านพักของนายมนตรี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา
น.ส. เอ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ลูกสาวได้ใช้บริการรถตู้โดยสารคันที่ นายมนตรี เป็นคนขับ มาจากกรุงเทพ เพื่อกลับบ้านที่อำเภอพนมดงรัก โดยมีผู้โดยสารที่มากับรถตู้จำนวนหลายคน แต่ละคนก็ได้ลงรถตามจุดหมาย กระทั่งมาถึงเขตอำเภอพนมดงรัก นายมนตรีได้ออกอุบายวนส่งผู้โดยสารคนอื่นลงก่อน เหลือลูกสาวตนเองไว้เป็นคนสุดท้าย ก่อนจะพาไปที่บ้านพักของนายมนตรี
"นายมนตรี ใช้กำลังฉุดกระชากลากตัวน้องลงจากรถตู้เข้าบ้าน น้องบีขัดขืนจึงถูกชกเข้าที่ท้อง ถูกนายมนตรีลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้มีการถ่ายรูปไว้ด้วยเพื่อแบล็กเมล พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่อย่านั้นจะนำรูปถ่ายไปโพสต์ประจานให้อับอายรวมถึงมีการขู่ตามฆ่าด้วย"
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.พนมดงรัก หลังทราบเรื่องเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา กับทาง ร.ต.อ.สมพงษ์ ชาวพงษ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี แต่เรื่องยังเงียบและไม่ได้รับการประสานงานจากตำรวจ แถมคนก่อเหตุก็ยังลอยหน้าลอกตาและยังมีการโพสต์ในเฟสเยาะเย้ยถากถางเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
น.ส.เอ บอกว่า ทราบเรื่องเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สังเกตเหตุลูกสาวซึมๆไม่พูดไม่จา ไม่ยอมกินข้าว เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว ถามเขาบอกว่าปวดท้องจะพาไปหาหมอเขาก็ไป คิดว่าลูกคงเครียดจากการเรียน พอเราซักมากๆเขาจึงยอมบอกความจริง คนก่อเหตุเป็นคนขับรถตู้ที่อยู่ระแวกหมู่บ้าน เราก็ไว้ใจให้ลูกโดยสารมาตลอดเวลากลับบ้าน ไม่คิดว่าเขาจะทำกับลูกเรา หลังจากรู้ความจริงจึงพาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.พนมดงรัก และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
แพทย์ระบุว่า มีการล่วงละเมิดทางเพศจริง
น.ส.เอ บอกว่า หลังเกิดเหตุได้มีการโพสต์ในเฟสส่วนตัว และตัวผู้กระทำผิดก็ได้มีการแคปโพสต์ตนนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กของเขา ยอมรับว่าเขาเป็นคนทำเอง อ้างว่าไม่ได้ขืนใจเป็นการสมยอม แล้วก็มีกลุ่มเพื่อนของคนก่อเหตุแชร์ต่อไป ข่มขู่เราว่าจะฆ่าเราอะไรแบบนั้น ก็อยากให้ทางตำรวจเร่งรัดคดี เพราะเป็นภัยต่อสังคมหากปล่อยผู้กระทำลอยนวลอยู่แบบนี้ สภาพจิตใจน้องเวลานี้ก็ย่ำแย่ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากถูกถ่ายรูปไว้แบล็กเมลข่มขู่ด้วย
นอกจากนี้หลังจากมรีการโพสต์ในโลกโซเชียล มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ให้ข้อมูล หลังได้เห็นในโพสต์ของคุณแม่และเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ว่า เคยถูกกระทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่าน ในช่วงนั้นได้เดินกลับบ้านโดยรถตู้โดยสาร เมื่อมาถึงบ้าน นายมนตรี คนขับได้ออกอุบายให้ช่วยไปส่งผู้โดยสารเป็นเพื่อน ซึ่งคิดว่าไม่มีอะไรเพราะเป็นคนรู้จักกัน
จนกระทั่งส่งผู้โดยสารหมดเหลือตนคนเดียวนั่งข้างกับคนขับ นายมนตรีก็เริ่มลวนลามใช้กำลังบังคับทำอนาจารภายในรถ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายรุนแรง แต่ตนก็พยายามสู้ขัดขืนปกป้องตนเองแต่ทานแรงไม่ไหว หลังเกิดเหตุตนไม่ได้ไปแจ้งความเพราะกลัวและอาย แต่พอทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องบี ก็พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงและพร้อมจะแจ้งความในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้วในเบื้องต้น ซึ่งผู้เสียหายได้มีความประสงค์ที่จะอยากได้พนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิง พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถสอบสวนรายละเอียดได้ แต่เราก็รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว จะได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมและเร่งรัดคดีให้
"หากเรายังไม่สอบปากคำบันทึกรายละเอียดในการดำเนินคดี จะทำให้การเอาตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาก็จะเป็นไปได้ลำบาก ก็อยากให้ได้รายละเอียดสอบสวนให้แน่ชัดก่อน โดยจะเร่งดำเนินการเลยภายในวันสองวันนี้ ทราบว่าตัวผู้ต้องหาเองก็ยังอยู่ในพื้นที่ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน"
พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก กล่าวอีกว่า จริงๆแล้วพนักงานสอบสวนผู้ชายก็ให้ความเป็นธรรมได้ โดยตนจะให้ทางรองผู้กำกับสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง และตนจะกำกับดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมให้ความเป็นธรรมในเรื่องคดีอย่างเต็มที่ พร้อมนัดผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีคลิปเสียงการสนทนาที่ทางญาติผู้เสียหายโทรไปสอบถามความจริงกับนายมนตรี คนขับรถตู้ โดยสาร ว่าจะยอมรับไหมว่าข่มขืนน.ส.เอ ซึ่งตอนแรกนายมนตรีไม่ยอมรับ และมีการจะขอต่อรองเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกัน แต่เมื่อจี้ถามหนักเข้านายมนตรีจึงยอมรับว่า ขืนใจน้องจริงและจะหาเงินมาไกล่เกลี่ยชดใช้ แต่ทางญาติผู้เสียหายไม่ยอม ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด