23 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (22 ธ.ค.67) เวลาประมาณ 22.00น. ร.ต.อ.กฤษดา หมุนมิตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในร้านข้าวต้ม ถนนนวลแก้วอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการ (สืบสวน) รับทราบ ก่อนลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ตำรวจลชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 เจ้าหน้าที่ สพฐ.9 แพทย์เวร รพ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย ทรายชื่อคือนายสิทธิพงศ์ ศิริพันธ์ อายุ 48 ปี ถูกยิงเข้าศีรษะ และเสียชีวิตที่โรงพยายาลอีก 1 ราย ทรายชื่อ น.ส.อรชอน เอียดคำ อายุ 45 ปี ถูกยิงเข้าศีรษะ ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน นอกจากนี้ ลูกสาวอายุ 6 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกันมาฉลองวันเกิดที่ร้าน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อ น.ส.ภาวนา อุดทา อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของร้านข้าวต้มได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณศีรษะ และนายสุริยา สุประดิษฐ์ (ลูกค้า) อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขวา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
สำหรับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นาย อัครพณธ์ ภามจำนง เป็น อส.อ.หาดใหญ่ อายุ 50 ปี หลังก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ พร้อมกับ อาวุปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 8 ปลอก ตกกระจายอยู่ทั่วร้าน ส่วนสาเหตุ พยานให้การเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมาที่ร้านคนเดียว และได้สั่งเหล้ามานั่งดื่ม ก่อนเดินออกไปสูบบุหรี่ริมถนน จากนั้นมีพนักงานเสิร์ฟในร้าน มาเก็บโต๊ะโดยที่ไม่รู้ว่าเขายังกินไม่เสร็จ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ เลยมีปากเสียกับเจ้าของร้านกับพนักงานเสิร์ฟ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถออกไปจากร้าน สักพักก็ได้ขับรถกลับมา และมีปากเสียงกับเจ้าของร้าน ก่อนชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงทั้งร้าน จนมีผู้บาดเจ็บแล้วเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน ลูกชาย อายุ 12 ปี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตัวเอง และ ครอบครัว มาเลี้ยงฉลองวันเกิด ครบรอบ 12 ปี และมานั่งกินข้าวกัน เห็นผู้ก่อเหตุกับเจ้าของร้าน มีปาก เสียงกัน โดยที่ครอบครัวตนไม่รู้อะไรเลย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง
พนง.เสิร์ฟ เล่านาทีเกิดเหตุ
จากสอบสวน พนักงานชายร้านข้าวต้ม ให้การว่า ผู้ก่อเหตุที่มีอาการมึนเมาอยู่แล้ว ก็เข้ามานั่งในร้านที่โต๊ะ 15 พร้อมถือสุรามาด้วย 1 แบน เมื่อพนักงานชายไปรับออเดอร์ ผู้ก่อเหตุก็สั่งโซดา 1 ขวด น้ำแข็ง 1 แก้ว จากนั้นนั่งดื่มประมาณ 30 นาที ผู้ก่อเหตุออกไปคุยกับเพื่อนนาน พนักงานในร้านอีกคนคิดว่าลูกค้า ออกจากร้านไปแล้ว ก็ไปเก็บเงินและเตรียมเก็บโต๊ะ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ จึงสั่งคิดเงิน แล้วเอาอาวุธปืนออกมา ดึงสไลด์ จ่อใส่พนักงานของร้านคนดังกล่าว ทำให้พนักงานคนนี้ต้องวิ่งหนี แล้วผู้ก่อเหตุก็เดินมาที่เคาน์เตอร์ สแกนจ่ายเงิน จำนวน 135 บาท แล้วออกไปจากร้านทันที
จากนั้นประมาณ 5 นาที ผู้ก่อเหตุ ก็ขับรถยนต์ย้อนกลับมาที่ร้าน ซึ่งพนักงานผู้หญิงในร้านพร้อมกับ แม่เจ้าของร้าน ได้เข้าไปขอโทษ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่พอใจ เรื่องที่เจ้าของร้านได้ปฏิเสธให้บริการรอบ 2 เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้สไลด์ปืน จ่อพนักงานของร้าน ทำให้ผู้ก่อเหตุมีอารมณ์โมโหเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับพูดข่มขู่ลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านว่า “ถ้าใครไม่อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ออกไปจากร้านจะยิงให้หมด”
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงลูกค้าในร้านทันที 3 นัด ทำให้ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ กระโดด วิ่งหนีลูกกระสุน และเจาะยิงศีรษะผู้เสียชีวิต กับภรรยา ต่อหน้าลูกชายและลูกสาว ทำให้ลูกสาวหกล้มศีรษะแตก ส่วนลูกชายวิ่งหนีออกไปนอกร้าน
ระหว่างนั้น ผู้ก่อเหตุยังคลุ้มคลั่งจ่อยิงเจ้าของร้าน ที่วิ่งเข้าไปห้ามไม่ให้ก่อเหตุ และหลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุก็ได้ ขับรถยนต์ หลบหนีไปตามถนนนวลแก้วอุทิศ ก่อนที่จะย้อนกลับไปที่บ้าน และจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่ภรรยาและลูกๆได้ช่วยกันห้ามไว้ พร้อมกับกล่อมให้มอบตัว
กระทั่งประมาณ เที่ยงคืน ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็น อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.จังหวัดสงขลา ได้เข้ามอบตัว กับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ซึ่งผู้ก่อเหตุปฏิเสธ ที่จะบอกถึงสาเหตุที่ต้องลงมือยิงเจ้าของร้านข้าวต้มและลูกค้าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คน