svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตร.ประจันตคาม ค้นบ้าน คนใกล้ชิด "โกทร" ยึดอาวุธปืน 6 กระบอก

ตร.ประจันตคาม ค้นบ้าน คนใกล้ชิด "โกทร" ยึดอาวุธปืน 6 กระบอก ด้าน สจ.เจี๊ยบ ไม่กังวลถูกยึดอาวุธ ยินดีให้ตรวจสอบ บริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับคดี และไม่เชื่อ "โกทร" จะบงการสังหารลูกน้อง ขณะที่ กำนันพรเทพ ยินดีให้ตรวจสอบ ยอมรับ เสียดายที่ "โกทร-สจ.โต้ง" คุยกันช้าไป

14 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ประจันตคาม เข้าตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย4จุด ในอำเภอประจันตคาม สามารถยึดอาวุธปืนได้รวม 6กระบอก  ประกอบด้วย 

1 บ้านพักของ นายไพฑูรย์ เทศยุคุณธร หรือสจ.เจี๊ยบ สจ.ประจันตคาม คนใกล้ชิดกับโกทร ยึดปืนลูกซอง1กระบอกและ 9 มม.1กระบอก

2 บ้านพักของนายพรเทพ ไกรสิงห์ กำนันตำบลโพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ยึดอาวุธปืน 3กระบอก เป็นลูกซอง 2กระบอกและ 9มม.1กระบอก

3 บ้านพักของนายปาน ผู้ใหญ่บ้าน ยึดอาวุธปืน 1 กระบอก

4 บ้านของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ก็คือบ้านของ สจ.เจี๊ยบ โดย สจ.เจี๊ยบ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าตำรวจเข้ามาตรวจค้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้ตรวจยึดปืน จำนวน 2 กระบอก เป็นลูกซอง 1 กระบอก และ 9 มม.อีก 1กระบอก

ยืนยันว่า ปืนของตนเองมีทะเบียนถูกต้องทั้งหมด และหากจะนำไปยิงเพื่อนำปลอกกระสุนไปตรวจเปรียบเทียบ ก็ยินดีที่จะให้นำไปพิสูจน์ เพราะตนเองบริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางคดีอยู่แล้ว และมองว่า หากมีการระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะได้ปราบผู้มีอิทธิพลตริงๆ และตนเองไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล ไม่ได้เป็นนักเลง มาค้นก็ดีแล้ว จะได้ปราบให้หมดเลย ใครผิดกฎหมายก็จับไปเลย ส่วนของตนเองถูกต้องทั้งหมด

เมื่อถามถึงเรื่องราววันเกิดเหตุกับทาง สจ.เจี๊ยบอีกครั้ง สจ.เจี๊ยบ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 16.00 น. ตนเองได้คุยโทรศัพท์กับ สจ.โต้ง ในเรื่องของการหาเสียง เรื่องการวางตัว และจะช่วยเหลือในการหาเสียงอย่างไร เนื่องจากสจ.โต้ง รอคำตอบจากตนเองอยู่ ซึ่งตอนที่ตนเองพูดคุยกับ สจ.โต้ง ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรที่จะนำไปสู่การเกิดเหตุ 

เพราะก่อนหน้าที่ตนเองจะคุยกับ สจ.โต้ง ก็ได้คุยกับ โกทร มาแล้ว เพื่อสอบถามให้ชัดเจนว่า โกทรจะลงเลือกตั้งเองหรือไม่ เมื่อโกทร ยืนยันว่า ไม่ลงและให้ สจ.จอย ไปแล้ว ก็คือจบ ทำให้ตนเองจึงมารับปากกับ สจ.โต้ง ว่าจะช่วยเหลือในการหาเสียงได้

และตนเองเป็นคนมีสัจจะ รับปากว่าจะช่วยใครก็คือช่วย และไม่ไปขวางทางใครให้เจ็บตัว แต่ในเมื่อตกลงว่า โกทรไม่ลง และให้ทางฝั่งของ สจ.โต้ง ตนเองก็ได้คุยกับทีมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในประจันตคาม ที่เคารพตนเองว่าให้ช่วยกันสนับสนุน สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง ในการหาเสียงลงสมัครเลือกตั้งเป็น นายก อบจ. ส่วนจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะการหาเสียงต้องใช้ความสนิทสนมกับชาวบ้าน

ส่วนกรณีที่ พรรคเพื่อไทย จะสนับสนุน สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้งในการลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยนั้น สจ.เจี๊ยบก็มองว่า ส่วนตัวของ สจ.จอย คงไม่ได้สนิทกับชาวบ้าน แต่ใช้การเชื่อมของสจ.โต้ง และการช่วยหาเสียงของ สจ.โต้งซึ่งเท่าที่ทราบมาคือ มีการติดต่อพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า แล้ว เพราะทั้งคู่มีความสนิทสนมกัน

เมื่อถามว่า การที่ สจ.โต้ง จะส่ง สจ.จอย ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จะเป็นชนวนเหตุให้นำไปสู่การเกิดเหตุได้หรือไม่นั้น สจ.เจี๊ยบ มองว่า "โกทร" คงไม่ติดใจ เรื่องแค่นี้ จะอยู่ตรงไหนก็ไม่จำเป็น หากรักกันและให้เกียรติกัน และที่ตนเองจะช่วยสนับสนุน สจ.โต้ง ในการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวว่าจะอยู่พรรคไหน สังกัดไหนเช่นกัน แต่ขอแค่ โกทรไม่ลงตนเองก็พร้อมสนับสนุน

และหลังจากที่ตนเองคุยกับโกทร ยอมรับว่า โกทรมีความน้อยใจ สจ.โต้งที่ไม่ค่อยเข้าไปหาบ้าง และสจ.โต้งก็น้อยใจที่ โกทร ไม่ประกาศว่าจะไม่ลงเลือกตั้งจะได้จบ แต่ความน้อยใจถือเป็นเรื่องประจำ ไม่ได้จะต้องมาทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย ไม่ใช่การจะมาฆ่ากัน

โดยส่วนตัวเชื่อว่า ‘โกทรไม่ได้บ่งการฆ่า สจ.โต้งแน่นอน เพราะตนเองอยู่กับป๋ามานาน ป๋าไม่เคยฆ่าลูกน้อง ตนเองอยู่มา 40 กว่าปี ไม่เคยทำลูกน้องสักคน มีแต่ด่าคำหยาบๆ ตนเองก็เคยโดน และลูกน้องโกทรไม่เคยตายสักคน ไม่เคยมีใครตายเพราะโกสักคน’

นอกจากนี้ นักข่าวยังเดินทางไปที่บ้านของ นายพรเทพ ไกรสิงห์ กำนันตำบลโพธิ์งาม หนึ่งในบ้านที่ตำรวจเข้าตรวจค้นแต่กำนันพรเทพ ไม่อยู่บ้าน มีเพียงน้องสาวอยู่ที่บ้านเท่านั้น

ตร.ประจันตคาม ค้นบ้าน คนใกล้ชิด \"โกทร\" ยึดอาวุธปืน 6 กระบอก

นักข่าวเลยโทรศัพท์ไปสอบถามกับ กำนันพรเทพ เจ้าตัว บอกว่า ที่ไม่อยู่บ้าน ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่มีกำหนดการพบบรรดาผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไปศึกษาดูงานที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อยู่แล้ว

และเมื่อเช้ามีตำรวจเข้ามาขอตรวจคนบ้านจริง ด้วย ตนเองก็ยินยอมให้มีการเข้าตรวจค้นตามหน้าที่ และตำรวจได้ยึดอาวุธปืนไปตรวจสอบ 3  กระบอก ยืนยันว่าทั้ง3กระบอก มีใบอนุญาตและมีทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย และการตรวจค้น เป็นในเรื่องของการปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมถึงมีเหตุการณ์สำคัญในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งยืนยันได้ว่าตนเองไม่เคยให้ใครยืมอาวุธปืน และ การที่ตำรวจพยายามจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตนเองก็ไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะไม่ใช่คนมีอิทธิพลอะไร ชาวบ้านก็รู้ดีกันหมด 

ส่วนความสัมพันธ์ของตนเองกับโกทร นั้น ก็มีความใกล้ชิดสนิมกับโกทรระดับหนึ่ง เพราะโกทรมีความสนิทสนมกับพ่อตนเองสมัยยังเล่นการเมือง หลังจากพ่อเสียชีวิต โกทร ก็เลยรักและเอ็นดูตนเองด้วย

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ สจ.โต้ง ก็เป็นพรรคพวกเดียวกัน ก่อนหน้านี้ สจ.โต้ง ก็มีการเข้ามาปรึกษาในเรื่องของการจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ว่าจะส่งสจ.จอย ลงสมัคร 

ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมาตนเองก็ได้มีโอกาสสอบถามไปยัง โกทร แล้ว ได้คำตอบชัดเจนว่า จะไม่ลงสมัครแข่งในรอบนี้ โดยโกทร ก็บอกว่า ”ให้ช่วย สจ.โต้งไป มันมาขอกูแล้ว ก็ยกให้มันไป“  ซึ่งก็ต้องช่วยสนับสนุนกันเพราะเป็นพวกเดียวกัน

โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าจะเกิดความขัดแย้งนี้  และในมุมมองของตนเอง  ทั้งสองคน  เขารักกันอยู่ เพียงแต่หลังจากไม่กี่วันที่ผ่านมา มันเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองคนเกิดความคาใจกัน ไม่ยอมเปิดใจคุยกัน ต่างฝ่ายต่างฟังข้อมูลจากลูกน้อง  ตนเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าหันหน้าพูดคุยกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น

ส่วนกรณี รอง อุ๊ เป็นคนกลางเข้าไปพูดคุย ก็น่าจะเป็นเพราะว่าทั้งสองฝ่ายมีเรื่องที่คาใจกัน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าจะมีการนัดไปเจรจาพูดคุยกันในวันเกิดเหตุ มาทราบอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันเกิดเหตุ 

และส่วนตัวไม่เชื่อว่า โกทร จะบงการฆ่า สจ.โต้ง ตามที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “เพราะคนที่ด่าว่าแล้วกอดคอกันร้องไห้ผมว่าแกไม่ทำ แกเป็นคนรักลูกน้อง ผมอยู่กับแกมานาน แกก็เอ็นดูเหมือนลูกหลาน”