กรณีการจับกุม "ดาว" น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของ "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในความผิดฐาน "ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน"
27 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) "บิ๊กอ้อ" พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้มาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ในล็อต 2 เนื่องจากวันที่ 5 พ.ย.67 พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่วนหนึ่ง ส่งไปให้อัยการและสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ในช่วงนี้ยังมีผู้เสียหายหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อนและยังประสงค์ร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่
ส่วนคดีทนายตั้ม จะขยายผลถึงใครอีกหรือไม่นั้น
พล.ต.ท.อัคราเดช เผยว่า ก็เป็นขั้นตอนการทำงานทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยการดำเนินการจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และรวบรวมพยานหลักฐาน
โดยที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนได้รายงานความคืบหน้าอยู่หลายส่วน อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาว่าจะนำเข้าในสำนวนหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่
ส่วนกรณี "นายเล็ก" คนขับรถของ "ทนายตั้ม" ในชั้นนี้ยังถือว่าเป็นพยานอยู่ แต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางแผนในการสอบสวนเอาไว้
เมื่อถามถึงการสอบปากคำของ "ดาว" น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาทนายตั้ม
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ทราบว่า "ดาว" น.ส.ปิณฑิรา ให้ความร่วมมือน้อยมาก ให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่สอบถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่เท่านั้น เป็นการให้โอกาสพิสูจน์ความผิด
ส่วน "ดาว" น.ส.ปิณฑิรา จะมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็อยู่ระหว่างขยายผล ว่าจะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม
มีรายงานข่าวแจ้ง ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ "ดาว" น.ส.ปิณฑิรา" เพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ให้ครบถ้วน ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง