26 พฤศจิกายน 2567 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าหลังพาผู้เสียหาย 2 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "หมอบุญ" นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลชื่อดัง ว่า ยังมีผู้เสียหายติดต่อมาเรื่อยๆ ทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เป็นผู้สูงอายุมีหน้ามีตาในสังคม เคสนี้ผู้เสียหายมูลค่านับ 1,000 ล้านบาทก็มี แต่ผู้เสียหายป่วยเพราะรับสภาพไม่ไหว
หลังจากวันที่ 12 ธันวาคมนี้ จะมีอีกเยอะมาก เพราะตั๋วที่ใช้แทนหุ้นชุดเดิมจะหมดอายุ หรือถึงวาระที่ จะต้องชำระ ในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งตนคาดการณ์ว่าน่าจะไม่มีชำระ ดังนั้นอยากให้ผู้เสียหายได้เตรียมเอกสารหลักฐานการโอนและหลักฐานการทำสัญญาทุกอย่าง เพื่อดำเนินการแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ที่กองปราบปรามได้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวน 500-600 ราย
กรณีของหมอบุญ จะต่างกับกรณี "ดิไอคอน "เพราะมี "ผู้เสียหายน้อยกว่า แต่มูลค่าความเสียหายมากกว่า"
โดยผู้เสียหายได้เล่าให้ฟังว่ากรณีหมอบุญมีค่าเสียหายมูลค่าแตะถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะค่อยๆรวบรวมหลักฐานต่อไป
ได้รับข้อมูลมาว่า ขณะนี้หมอบุญ นอกจากอยู่ที่ประเทศจีนแล้วก็เตรียมที่จะ หนีไปบางประเทศโซนยุโรป ที่มีคอนเนคชั่นอยู่
ตนหวังว่าเจ้าหน้าที่จีนและตำรวจไทย จะประสาน ตำรวจสากลเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็ววัน
เมื่อถามว่า กรณีที่เพื่อนร่วมรุ่นของ หมอบุญ ถูกโกงเช่นกัน แต่ หมอบุญ กลับบอกว่าไม่ได้ตั้งใจนั้น
นายแทนคุณ กล่าวว่า ความตั้งใจของคนควรวัดจากการกระทำดีกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องไปพิสูจน์กัน จนไม่อยากก้าวล่วงถึงเจตนาของ หมอบุญ แต่สิ่งที่เค้าทำถือว่าสาหัสมากนัก กรณีออกเช็คเด้ง ซึ่งสะท้อนถึงเจตนาของท่านรวมไปถึงการให้เอกสารต่างๆ เช่น โฉนดที่ดิน แต่ไม่สามารถนำไปโอนได้
จากข้อมูลที่ได้รับไม่ใช่เรื่องของการปลอมแปลงลายเซ็น อาจเป็นเรื่องที่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ เพราะตอนนี้มีคนพยายามพลิกตัวเองไปเป็นผู้ประสบภัยด้วยซึ่งอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป