svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ฝากขัง ลูก-เมีย "หมอบุญ" ร่วมฉ้อโกง 7.5 พันล้าน

ตำรวจ นำตัว ลูก-เมีย "หมอบุญ" ฝากขังคดีหลอกลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 7.5 พันล้าน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านคนขับรถนำน้ำ และอาหารเข้าเยี่ยมเจ้านาย

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 07.40 น. พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง มารับตัว นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี อดีตภรรยาของ นพ.บุญ วนาสิน หรือ "หมอบุญ" อายุ 86 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ลูกสาวของหมอบุญ หลังเข้ามอบตัวในคดี "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" และ "ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" จากกรณี นพ.บุญ อ้างว่า ลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์  5 โครงการใหญ่ มีการชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน มีผู้เสียหาย 247 ราย สูญเงินรวมกว่า 7,500 ล้านบาท ที่ สน.พญาไท ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เป็นผลัดแรก โดยท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก 

ซึ่งคดีความนี้มีอายุความ 10 ปี และตามหมายจับระบุว่า ทั้ง 2 ผู้ต้องหา ร่วมกันกระทำความผิด ตั้งเเต่วันที่ 9 กันยายน ปี 2562 ถึงวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2567 ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน ที่เกิดเหตุ ธนาคารเเห่งหนึ่ง สาขาเซ็นทรัลพระราม9 เเขวงเเละเขตห้วยขวาง เเละ ต่อเนื่องเกี่ยวพันกันหลายพื้นที่ 

ฝากขัง ลูก-เมีย \"หมอบุญ\" ร่วมฉ้อโกง 7.5 พันล้าน

ทั้งนี้ ก่อนนำตัว 2 ผู้ต้องหาไปฝากขัง เมื่อช่วงเช้าเวลา 07.30 น. นายพัน (ไม่ทราบนามสกุล) คนขับรถของ นางจารุวรรณ และ ลูกสาวของ "หมอบุญ" ได้นำอาหาร น้ำดื่ม กาเเฟ "สตาร์บัค" มาเยี่ยมผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยตำรวจได้แนะนำให้รีบเยี่ยม และใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ในการพูดคุยกัน  จากนั้นตำรวจให้นายพัน หลบออกทางประตูด้านหลังไปทันที 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สองแม่ลูกยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกับวันที่เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยผู้เป็นแม่สวมเสื้อลายทางสีฟ้า กางเกงสีเนื้อ สวมแว่นตาดำ ปิดแมส ส่วนลูกสาวนุ่งกางเกงลายดอก สวมเสื้อคอกลมสีดำ สวมหมวกสีน้ำเงิน ใส่แว่นตาดำ ปิดแมส หิ้วกระเป๋า 2 ใบ ก่อนขึ้นตู้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ของ สน.ห้วยขวาง โดยมีรถสายตรวจของตำรวจ สน.ห้วยขวาง ขับตามมาด้วยอีกคัน 

ผู้เสียหายหวั่น "หมอบุญ" ไซฟ่อนเงินออกนอกประเทศ

สำหรับการติดตามอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องในคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งขยายผลของตำรวจ หลังอายัดโฉนดที่ดินต่าง ๆ ที่ตรวจพบจำนวน 21 เเปลง เเละ ตามหารถยนต์ 19 คัน ของ "หมอบุญ"

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับข้อมูลว่า ตอนนี้ในส่วนหุ้นของ "หมอบุญ" เหลือเพียงเล็กน้อย ไม่ถึง 1 % เเต่หุ้นของภรรยา เเละ ลูกสาว ยังมีอยู่เยอะ ขณะเดียวกัน มีผู้เสียหายรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ในวันที่เคยพยายามไปเจรจาขอเงินคืนจาก "หมอบุญ" เจ้าตัวมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก อ้างมีที่ดิน เเถวเพชรบุรี ชะอำ เป็นหมื่นๆไร่  เเละอ้างว่า ทำหลังบ้านให้กับ บริษัท อสังหาริมทรัพย์ กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีชื่อเสียงระดับต้นของประเทศ มีการซื้อขายหุ้น เข้าไปเทคโอเวอร์ ที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 

เเละ เมื่อปี 2566 กลุ่ม "หมอบุญ" ก็เข้าไปเทคโอเวอร์ โรงเเรมเเห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก ประมาณ 3,500 ล้านบาท สิ่งที่เป็นห่วงเวลานี้ คือ กังวลว่า หมอบุญ จะเอาทรัพย์สิน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ไปจำนอง ทำธุรกรรมอื่นรอไว้ เหมือนเป็นการ "ไซฟ่อนเงิน" หรือ เอาไปจำนำขายฝากไว้ก่อน เเล้ว เอาทรัพย์สิน หรือเงิน ออกไปยังต่างประเทศ