svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

หิ้วสาวใหญ่ "ฆาตกรรมตัดนิ้ว แม่ยายอัยการ" มาทำแผน

ตำรวจระยองหิ้วสาวใหญ่ "ฆาตกรรมตัดนิ้ว แม่ยายอัยการ" มาทำแผน หลังจนมุมด้วยหลักฐาน เจอเส้นผมผู้ต้องหาติดในเล็บคนตาย ญาติตะโกนสาบแช่ง ไม่เชื่อทำคนเดียว

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 67 น.ส.วรรณรัตน์ อายุ 35 ปี บุตรสาวของ นางวรรณา อายุ 65 ปี แม่ยายอัยการ เข้าแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ ว่าผู้เป็นแม่ได้หายไปจากบ้าน หลังจากไปทำบุญงานกฐิน ที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมเขาพลอย ก่อนมีการพบศพ ถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์ ในช่วงเช้า ที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาล จ.ระยอง เข้าจับกุมตัว นางกมลวรรณ โวลฟ์ อายุ 57 ปี เพื่อนของผู้ตาย มาทำการสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ 

18 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นางกมลวรรณ ให้การรับสารภาพแล้ว โดยอ้างว่า ได้พาผู้ตายขณะยังมีชีวิตอยู่ มาบริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วลงมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตเพียงคนเดียว

สำหรับการที่ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เพราะจนมุมด้วยหลักฐาน เส้นผมของผู้ต้องหา เข้าไปติดอยู่ในเล็บของผู้ตาย คาดว่าอาจจะเป็นช่วงระหว่างต่อสู้กันก่อนเสียชีวิต

 

เบื้องต้นเจ้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำรับสารภาพดังกล่าว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี และเตรียมควบคุมตัว นางกมลวรรณ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

 

ตำรวจหิ้วสาวใหญ่ไปร้านทอง ในชลบุรี ที่นำทองผู้ตายไปขาย

 

หิ้วสาวใหญ่ \"ฆาตกรรมตัดนิ้ว แม่ยายอัยการ\" มาทำแผน

 


ช่วงสาย พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุมตัว นางกมลวรรณ มาชี้ ที่ร้านห้างทองแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึง ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้นำทองของผู้ตาย ประกอบไปด้วย แหวน 2 วง สร้อยคอ1 บาท สร้อยข้อมือ 1 บาท มาขายในราคา 88,300 บาท ในวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 17. 25 น. โดยใช้รถคันก่อเหตุ สีขาวมาจอด แล้วเข้าไปในร้าน อ้างชื่อเดิม และไม่ได้ให้บัตรประชาชน ที่กล่าวกับทางร้านว่าบัตรประชาชนหาย ก่อนรับเงิน แล้วขับรถไป 

 

หิ้วสาวใหญ่ \"ฆาตกรรมตัดนิ้ว แม่ยายอัยการ\" มาทำแผน

 

 

ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา เผยว่า หลังจากสืบทราบ ได้จับกุมผู้ต้องหา ที่เป็นเพื่อนกับผู้ตาย เนื่องจากหลักฐานที่สำคัญ มีเส้นผม ของผู้ต้องหา อยู่ในมือของผู้ตาย ซึ่งทีแรกไม่ปักใจเชื่อว่าลงมือทำคนเดียว จนมีการพบว่า มีการตีที่หัว ก่อนนำศพไปทิ้ง และตัดนิ้วเอาแหวนไป ซึ่งส่วนสาเหตุ ประเด็นการก่อเหตุ จากการหวังชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้การพนัน 

 

ส่วนทาง น.ส.กบ หลานเจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพ ผู้ต้องหา ได้ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดหน้าร้าน และเข้ามาในร้าน ได้ยื่นแหวนมาก่อน อ้างว่าแหวนมันเบี้ยวเลยต้องการขาย แล้วได้นำสร้อยคอกับสร้อยข้อมือ ออกมาขอขายพร้อมกัน อ้างว่าเก่าแล้ว พอได้เงิน ก็ออกจากร้านไป จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถาม ไม่มีข้อมูล เพราะ ตอนเอามาขาย ได้ใช้ชื่ออื่น ที่ไม่ใช่ชื่อปัจจุบัน ซึ่งคนร้าย ตอนเข้ามาขาย ไม่มีอาการตกใจอะไร เหมือนลูกค้าทั่วไป
 

 

หิ้วตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

ต่อมาตำรวจ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง นำตัว นางกมลวรรณ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหา ไปที่เกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณป่าปาล์ม ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง 

 

โดยอ้างว่าได้ ลวงผู้ตายมาที่เกิดเหตุแล้ว ลงมือใช้เหล็กแป๊ปที่เตรียมมา ตีผู้ตายจนแน่นิ่งไป และได้ลักทรัพย์ของมีค่าที่มีอยู่ในตัวผู้ตายนำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้พนันและมีการทำลายหลักฐานโดยการนำรถไปล้าง ยืนยันว่ากระทำเพียงคนเดียวไม่มีผู้ร่วมลงมือแต่อย่างใด 

 

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียดเจ้าหน้าที่ต้องกั้นพื้นที่ เพื่อนำตัวนางกมลวรรณ ผู้ต้องหา ที่ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า ก่อนลงจากรถนำตัวมาทำแผน 

 

ท่ามกลางคำตะโกนด่าทอของน้องชายผู้ตาย ว่า "มาทำพี่สาวตนทำไม ขอดีดีพี่สาวตนก็ให้ ยังไงก็ไม่ให้อภัย ไม่เชื่อว่าทำคนเดียวยังต้องมีผู้ร่วมขบวนการอีก"

 

จากนั้นเมื่อทำแผนเสร็จตำรวจรีบนำตัวกลับ สภ.วังจันทร์ ทันที