8 พฤศจิกายน 2567 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้คุมตัว "ทนายตั้ม" ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 1 ของอาคารประชาอารักษ์ ขึ้นไปยังด้านบน เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติม
โดย "ทนายตั้ม" สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ ชุดเดียวกับเมื่อคืนนี้ และทนายตั้มมีท่าทางที่อิดโรย สีหน้าเรียบเฉย หันมามองสื่อมวลชนที่บริเวณประตูทางเข้าออก
ต่อมา ตำรวจได้คุมตัว "นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด" ภรรยาของ ทนายตั้ม ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าตัวสวมใส่แว่นดำและหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีขาว รองเท้าแตะมีส้น และถือถุงพลาสติกบรรจุสิ่งของบางอย่าง ชุดเดียวกับเมื่อคืนเช่นกัน โดยระหว่างคุมตัวภรรยาทนายตั้มไม่ได้มองมาทางสื่อมวลชน
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าเวร ได้สั่งข้าว "กระเพราไก่ 2 กล่อง พร้อมน้ำ 2 ขวด" มาให้เป็นอาหารมื้อเช้า ให้กับทนายตั้มและภรรยา
โดยบรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ตำรวจ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ บริเวณด้านในของอาคารกองบังคับการปราบปรามและไม่อนุญาตให้บันทึกภาพบริเวณภายในอาคาร ให้บันทึกภาพเฉพาะบริเวณด้านนอกอาคารเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จสิ้น ก่อนเที่ยงวันนี้ ตำรวจจะคุมตัวทนายตั้มและภรรยา ไปฝากขัง ที่ศาลอาญา
โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มีพฤติการณ์หลบหนี และข่มขู่พยาน
ตำรวจเข้าค้นสำนักงานกฏหมาย "ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม" กันสื่อไม่ให้ขึ้นตึก
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจเข้าตรวจค้น "บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม" ที่อยู่ชั้น 24 ในอาคารหรู ย่านสาทร กทม. ของ "ทนายตั้ม"
เบื้องต้น ทาง "บริษัท ษิทราลอว์เฟิร์ม" ไม่ อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไป โดยสื่อมวลชนยังคงปักหลักรออยู่ที่ชั้นล็อบบี้
กองปราบแจงปมอุ้มพยานทนายตั้มสอบ ยันทำตามกรอบกฏหมาย
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. กล่าวว่า อยากชี้แจงกรณีที่ทนายตั้มเคยให้สัมภาษณ์ด้อยค่าตำรวจกองปราบปรามไปอุ้มพยานมา โดยที่เขาไม่เต็มใจเดี๋ยวจะโดนแจ้งความกลับ ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำไปตามกรอบกฎหมาย ไม่ได้ทำนอกเหนือกฎหมายแต่อย่างใด
ตำรวจทำตามอำนาจหน้าที่ ส่วนผู้ต้องหาล็อต 2 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานว่าจะขยายผลไปถึงใครบ้าง ก็จะดำเนินการต่อไป ส่วนพยานที่เป็นคนสนิทของทนายตั้มที่เรียกมาสอบสวนนั้นยังบอกไม่ได้ว่าจะกันไว้เป็นพยานหรือจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้
"รอง ผบช.ก." ยืนยันแม้ "ทนายตั้ม" จะแต่งตัวรอมา 5 วัน ไม่มีผลตำรวจมีหลักฐานพอออกหมายจับ
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังการสอบปากคำทนายตั้มและภรรยาเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ท่านให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การในรายละเอียดในมุมของตัวเอง ที่ต้องการแก้ข้อกล่าวหา
ซึ่งได้สอบสวนไว้เพราะเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนที่มีการแก้คำให้การในหลายจุดก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่ได้อ่านคำให้การ อาจจะมีตกหล่นแล้วต้องเติมแก้ไขเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้เป็นเรื่องปกติถ้ายังไม่มีการลงชื่อ
ส่วนลักษณะคำให้การจะขัดหรือแย้งกับพยานหลักฐานมาน้อยแค่ไหนหรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด แต่บอกได้ว่า สิ่งที่ให้การทำให้เห็นถึงเจตนาต่างๆได้
เบื้องต้นผู้ต้องหาระบุเพิ่มเติมว่าจะทำคำให้การมายื่นเพิ่มเติมภายหลัง ภายใน15วัน และทั้งสองยังไม่มีการร้องขออะไรเพิ่มเติม แต่ตลอดการสอบปากคำก็ อยู่ในภาวะเครียดตามปกติของผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
ส่วนการฝากขังที่ศาลอาญาในวันนี้ พนักงานสอบสวนก็จะคัดค้านการประกันตัว เพราะหากเห็นว่าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานที่ให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ ส่วนที่อ้างว่าไปทำบุญไม่ได้หลบหนีจะเป็นเงื่อนไขในการขอประกันตัวในชั้นศาลได้หรือไม่นั้น
พล.ต.ต.สุวัฒน์ บอกว่า การจะหลบหนีหรือไม่ ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงในเรื่องพยานหลักฐาน ถ้าได้ตัวมาก็จบและไม่ได้ให้ความสำคัญในส่วนนั้น ยังมีส่วนอื่นอีกที่ไปเกี่ยวข้องกับยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และการข่มขู่พยานที่จะใช้ในการคัดค้านการประกันตัว
ส่วนที่นายสายหยุด ทนายความของทนายตั้มอ้างว่าแต่งตัวใส่สูทรอมาแล้ว 5 วัน ไม่มาจับจะมีผลอะไรหรือไม่นั้น
พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่า ไม่มีผลอะไร เพราะตำรวจพึ่งจะรวบรวมหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับได้ ก่อนหน้านั้นยังไม่ได้หลักฐานที่จะขอหมายจับได้ “จะแต่งตัวรอนานแค่ไหนตำรวจก็ไปจับไม่ได้ถ้าไม่มีหมายจับ”
ส่วนผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ถ้าพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงถึงบุคคลอื่นที่กระทำความผิดก็จะดำเนินการ ซึ่งยังต้องพิสูจน์ เพราะมีข้อมูลอยู่ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างแต่ต้องดูพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจึงต้องขอเวลาทำการสืบสวนสอบสวน
เบื้องต้นก็มีการเรียกมาสอบปากคำมาแล้ว แต่หากได้พยานหลักฐานที่เกิดความสงสัยก็ค้องเรียกมาสอบเพิ่ม และตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดในการเรียกพี่สาวภรรยามาสอบปากคำเมื่อคืนนี้
การตรวจค้นบ้านพักทนายตั้ม 2 จุดเมื่อวานนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งพยานหลักฐานที่ตรวจยึดมา ก็มีที่ใช้เป็นประโยชน์จะทำให้พิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ได้ และวันนี้จะมีการตรวจค้นอีก1จุด คือสำนักงานทนายความ
ทั้งนี้การอายัดทรัพย์สิน ได้อายัดบัญชีที่รับเงินมาจากทางผู้เสียหายไปแล้ว ส่วนทรัพย์สินอื่นๆประสาน เจ้าหน้าที่ ปปง.ในการอายัดต่อไป