4 พฤศจิกายน 2567 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดพิจารณาคดีหมายเลขดำ อ.2079/2567 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ยื่นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย ความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 326, 328 กรณีจำเลยหมิ่นประมาท นายสันธนะ ประยูรรัตน์ โดยศาลกำหนดนัดคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในคดีอาญา วันที่ 4 พ.ย. 2567 เวลา 14.00 น.
โดยในวันนี้โจทก์ ทนายผู้เสียหาย จำเลย และทนายจำเลย มาศาล ศาลได้แจ้งสิทธิและหน้าที่ของจำเลย ขั้นตอนการดำเนินคดี ผลดี ผลเสีย ให้จำเลยทราบแล้ว
นายชูวิทย์ จำเลย แถลงประสงค์จะเจรจากับผู้เสียหายมาในนัดหน้า จึงเลื่อนไปนัดคุ้มครองสิทธิวันที่ 17 ธ.ค. 67 เวลา 09.00 น. โดยคดีนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 23 ธ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. ขณะที่ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลยด้วย ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาต
ด้าน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง เผยว่า ในคดีแรกเมื่อช่วงเช้าที่ศาลแขวงพระนครใต้ นายชูวิทย์ได้ยอมรับสารภาพต่อศาลแล้ว ซึ่งทางศาลก็ได้มีคำพิพากษาลงโทษ ส่วนในช่วงบ่ายที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในการพิจารณาเริ่มต้น นายชูวิทย์ได้ให้การปฏิเสธ เพื่อที่จะต่อสู้คดี ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงต้องให้ทาง นายชูวิทย์ยื่นประกันตัว เพราะว่ามีเหตุสุขภาพต้องปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อที่จะได้นัดหมายในคดี เนื่องจากว่าไม่ใช่เพียงแค่ 2 คดี ซึ่งยังมีอีกทั้งหมด 10 คดี ต่างกรรมต่างวาระ หากชั้นอัยการและพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนก็ต้องส่งมาที่ศาลอีก ซึ่งทางฝั่งทนายนายชูวิทย์ จึงได้มีการนัดหมายกับตนว่า ให้มีการรวมคดีเพื่อที่จะให้มาศาลในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่นายชูวิทย์เคยสัมภาษณ์พูดถึงตน ทำให้ตนไม่มีโอกาสชี้แจงแล้วเสื่อมเสียชื่อเสียง
วันนี่ตนได้ไปออกรายการและเมื่อทราบว่า ทางนายชูวิทย์ได้มาที่ศาลด้วยตัวเอง จึงรีบมาเพราะว่าคิดถึงไม่เจอเป็นปีอยากถามถึงสุขภาพร่างกาย โดยรู้จักกับนายชูวิทย์มานาน อยู่ในสถานที่นายชูวิทย์ตอนที่เริ่มธุรกิจเป็น กี่สิบปีแล้ว แต่ทางนายชูวิทย์ไม่พอใจตน ที่เข้าไปในสถานที่โรงแรมของเขาในเหตุการณ์ครั้งนั้นมา ซึ่งคดีได้ผ่านไปแล้ว ศาลก็ยอมรับว่า ตนไม่ได้ไปกลั่นแกล้งอะไรนายชูวิทย์ วันนี้นายชูวิทย์ได้คุยกับตนในเรื่องนี้ และหลายเรื่องหลายคน ทั้งเรื่องบิ๊กแดง บิ๊กโจ๊ก บิ๊กแป๊ะ และเสี่ยกำพล และเปา รวมถึงสารวัตรซัว รวมถึงธุรกิจโคบาน่า ชี้แจงทำความเข้าใจกับตน ซึ่งทางนายชูวิทย์ได้รับฟังจากทางคนอื่น ไม่ได้ฟังจากตน ทำให้เกิดเรื่องเป็นคดี
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้มีการกล่าวโทษตนแล้ว แต่ตนยังไม่รับคำขอโทษ แต่ถ้าหากนายชูวิทย์สารภาพในทุกคดี หรืออยู่ถึงวันนั้น ตนก็จะบอกได้ว่า จะยอมรับคำขอโทษหรือไม่ และนายชูวิทย์ได้พูดว่า “พี่ต่อ ฝากขอโทษคุณสนธิลิ้มด้วย” และคุณสนธิก็ได้รับคำกล่าวโทษนี้ จากปากตนที่คุณชูวิทย์ได้ฝากมา
ในส่วนของเรื่องคดีก็ให้ดำเนินไปตามตามกฏหมาย สรุปว่าวันนี้ตนได้มาเยี่ยมอาการเขาและได้พูดคุย ซึ่งทางนายชูวิทย์ได้บอกกับตนว่า เรื่องอาการของตนนั้นคงจะรักษาไม่หาย ได้แต่ประคับประคอง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของทางนายชูวิทย์ เท่าที่ตนเห็นอาการของนายชูวิทย์ ก็มีอาการเหนื่อยพอสมควร และทนายนายชูวิทย์ได้มีการถ่ายรูปคู่กัน เพื่อยื่นพิจารณาในชั้นศาล (ซึ่งไม่สามารถเผยแพร่ได้ เนื่องจากเข้าข่ายอาจจะหมิ่นศาล) จะได้ไม่ต้องมาหลายครั้งเหมือนคนไม่ป่วย ตนได้ทราบข่าวข่าวว่า นายชูวิทย์เพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อคืนนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการและมาเคลียร์ เรื่องเอกสารทางธุรกิจของทางนายชูวิทย์ด้วย