3 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) บอกถึงความคืบหน้าในคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ว่า
ภายหลังสอบปากคำผู้แทน สคบ. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก่อนจะมีการเรียประชุมในสัปดาห์หน้า ว่า การสอบปากคำถือว่าเป็นประโยชน์ต่อแง่ข้อกฎหมายที่จะพิจารณาในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
ซึ่งทางดีเอสไอได้หารือในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นแผนธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป การขายสินค้า รวมถึงข้อเท็จจริงจากการสอบสวนทั้งหมด เพื่อให้ทั้ง 2 หน่วยงานได้พิจารณาพฤติการณ์ของบริษัทฯ ก่อนให้ความเห็นในเรื่ององค์ประกอบของกฎหมายแก่ดีเอสไอ
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมของดีเอสไอ มีกลุ่มเป้าหมายเป็น 18 บอสเดิม หรือมีบุคคลอื่นด้วยนั้น
พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า อยู่ระหว่างนำเรื่องทั้งหมดเข้าที่ประชุมพิจารณาในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน
เพื่อมีมติร่วมกันว่าจะแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ กับบุคคลใดบ้าง ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าการแจ้งข้อกล่าวหาจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ส่วนในที่ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล จะนำพยานชุดแรก 20 คน เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะมีการหารือเพื่อเตรียมพร้อมรับเรื่อง และต้องดูว่าพยานจะให้ข้อมูลในประเด็นอะไรบ้าง รวมทั้งพยานมีความเกี่ยวข้องอย่างไรในคดี
ทั้งนี้ หากคำให้การของพยานเป็นประโยชน์ต่อการไปพิสูจน์ความผิด หรือความบริสุทธิ์ หรือพิสูจน์ข้อกล่าวหามากน้อยแค่ไหน ดีเอสไอจะสอบปากคำแน่นอน
ซึ่งในการดำเนินการทุกอย่างของดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ได้ทำอย่างรวดเร็วและรอบคอบ ทั้งการรับไม้ต่อสำนวนคดีมาไม่นาน แต่ได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถเตรียมที่จะเเจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ แก่ผู้ต้องหาได้แล้ว